เว็บไซต์ tgo.or.th มีการเก็บคุกกี้ซึ่งเป็นการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ โดยให้ TGO ใช้ข้อมูล เพื่อจัดเก็บเป็นฐานข้อมูลและรับข่าวสารอื่นๆ ของ TGO ทั้งนี้ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่นโยบายความเป็นส่วนตัว
เว็บไซต์ tgo.or.th มีการเก็บคุกกี้ซึ่งเป็นการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ โดยให้ TGO ใช้ข้อมูล เพื่อจัดเก็บเป็นฐานข้อมูลและรับข่าวสารอื่นๆ ของ TGO ทั้งนี้ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่นโยบายความเป็นส่วนตัว
วันที่ 24 พฤษภาคม 2566 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) โดย กรมป่าไม้ จัดงาน “วันป่าชุมชนแห่งชาติ ประจำปี 2566” โดยมี นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เป็นประธานเปิดงาน พร้อมมอบโล่ ถ้วยรางวัล และเกียรติบัตร ให้แก่ผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายป่าชุมชน ภาคีเครือข่าย หน่วยงาน และองค์กรที่สนับสนุนการพัฒนาป่าชุมชน ทั้งนี้มี นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่จากหน่วยงาน ภายใต้ ทส. องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ TGO ได้แก่ นายเกียรติชาย ไมตรีวงษ์ ผู้อำนวยการ TGO รวมทั้งหน่วยงานภาคเอกชน และประธานเครือข่ายป่าชุมชน 68 จังหวัด เข้าร่วมงาน ณ โรงแรมเอเชีย แอร์พอร์ต จังหวัดปทุมธานี
นายวราวุธฯ รมว.ทส. กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. 2562 ในวันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติเห็นชอบให้วันที่ 24 พฤษภาคม ของทุกปี เป็นวันป่าชุมชนแห่งชาติ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ทั้งนี้ พระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. 2562 เป็นกฎหมายเพื่อส่งเสริมให้ชุมชนได้ร่วมกับรัฐในการอนุรักษ์ ฟื้นฟูจัดการ บำรุงรักษา และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมและความหลากหลายทางชีวภาพ อย่างสมดุลและยั่งยืนในรูปแบบของป่าชุมชน เพื่อให้ชุมชนสามารถจัดการป่าชุมชนและได้ประโยชน์จากป่าชุมชน อันจะส่งผลให้ชุมชนดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศให้มีความสมบูรณ์และยั่งยืน
ปัจจุบันได้มีการบริหารจัดการป่าชุมชนควบคู่กับการผลักดันแนวนโยบายเรื่องป่าเศรษฐกิจ ส่งผลให้การปลูกต้นไม้ของไทยมีศักยภาพมากยิ่งขึ้น มีปริมาณป่าเพิ่มมากขึ้น และเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจในแต่ละชุมชนขึ้นอย่างยั่งยืน ประชาชนทุกคนที่เป็นเจ้าของป่าชุมชน จึงต้องมีความรักและหวงแหนในการปกป้องต้นไม้ทุกต้นที่ร่วมกันดูแลให้ถึงชั่วลูกชั่วหลาน ซึ่งการที่จะทำให้ป่าชุมชนมีความอุดมสมบูรณ์ได้นั้น จะต้องอาศัยความร่วมมือทั้งจากเครือข่ายป่าชุมชนทั่วประเทศที่ได้ช่วยกันเป็นหูเป็นตาร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐ ในการร่วมกันดูแลรักษาป่าชุมชนทุกๆ แห่ง และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนในแต่ละพื้นที่ จะมีการต่อยอดและดำเนินการต่อไป เพื่อให้สามารถขยายพื้นที่ป่าชุมชนให้ได้มากยิ่งขึ้น สร้างความสมบูรณ์ให้แก่ทรัพยากรธรรมชาติของไทยอย่างยั่งยืนสืบไป
โดยภายในงาน TGO ได้ร่วมจัดนิทรรศการและนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับ TGO service เช่น โครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (T-VER) ภาคป่าไม้ การกักเก็บคาร์บอนของต้นไม้ ซึ่งได้รับความสนใจจากเครือข่ายป่าชุมชน และเครือข่ายภาคเอกชน เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ ภายในงานมีการมอบประกาศเกียรติบัตรให้แก่หน่วยงานร่วมจัดนิทรรศการ ซึ่ง TGO โดย นายเกียรติชายฯ ผู้อำนวยการ TGO ได้ขึ้นรับประกาศเกียรติบัตรดังกล่าว