นายวราวุธ ศิลปอาชา กล่าวว่า ในปี 2021 เป็นช่วงเวลาสำคัญ ที่นานาประเทศร่วมมือกันขับเคลื่อนโลกไปสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ซึ่งทุกประเทศ ทุกเมือง รวมถึงองค์กรธุรกิจจะต้องจัดทำและดำเนินตามแผนเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หรือตั้งเป้าหมายให้ก๊าซคาร์บอนเท่ากับศูนย์ภายในปี 2050 เพื่อรักษาอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มขึ้นไม่เกิน 1.5 - 2 องศาเซลเซียส สำหรับในประเทศไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ถือเป็นหน่วยประสานงานกลางด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของไทย ตระหนักถึงความสำคัญและความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคท้องถิ่น/ชุมชน ในการยกระดับการลดก๊าซเรือนกระจก เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนบนสังคมที่เป็นมิตรต่อสภาพภูมิอากาศ และมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ตามเจตนารมณ์ของประชาคมโลกที่ปรากฏในเป้าหมายของความตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
นอกจากนี้ TGO ยังได้ร่วมกับ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พัฒนา “Thailand Carbon Credit Exchange Platform” เพื่อเป็นแพลตฟอร์มหลั
กของประเทศไทยสำหรับการซื้
อขายหรือแลกเปลี่ยนคาร์บอนเครดิ
ตตามมาตรฐานประเทศไทย หรือ TVERs ที่ทาง TGO เป็นผู้ให้คำรับรอง โดยเฉพาะโครงการภาคป่าไม้
ประเภทต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมแหล่งดูดซับก๊
าซเรือนกระจกของประเทศ และหวังไว้ว่าจะเป็นตลาดกลางที่
โปร่งใส ถูกต้อง เชื่อถือได้ สามารถรายงานระดับราคาที่ยุติ
ธรรมสำหรับ “องค์กรผู้นำที่มีความรับผิ
ดชอบในการลดก๊าซเรือนกระจก (Climate Action Leading Organization)” และ “องค์กรผู้พัฒนาโครงการลดก๊
าซเรือนกระจกในรูปแบบต่าง ๆ ในระดับต้นทุนต่ำ” (Climate Action Innovator)” ได้มาแลกเปลี่ยนคุณค่าของ Carbon Credit ซึ่งกันและกัน เพื่อทั้งทำกำไรและนำไปสู่
การลดต้นทุนการลดก๊าซเรื
อนกระจกของประเทศโดยรวมให้ต่ำสุ
ด ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้การดำเนิ
นงานตาม Carbon Neutral Pathway ของสมาชิก TCNN ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพสู
งสุด
ที่มา :
บ้านเมือง