facebook
icon telephoneCall Center02-141-9790
ค้นหา
icon switch languageภาษา
ขนาดตัวอักษร
การแสดงผล
icon line icon youtube icon tiktok
banner_list

บทความ

 

การเดินทางเพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน

14 พ.ย. 66

                 รู้หรือไม่? ประเทศไทยปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากภาคพลังงาน ทั้งหมด 257,340.89 GgCO2eq โดยเกิดจากการขนส่ง ร้อยละ 29.16 คิดเป็นปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกถึง 75,029.65 GgCO2eq (ที่มาข้อมูลบัญชีก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทย จากรายงานแห่งชาติฉบับที่ 4) อีกทั้ง กิจกรรมหนึ่งขององค์กรที่ ก่อให้เกิดมลพิษและปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ไม่น้อยเลย นั่นคือ การเดินทางด้วยรถยนต์ โดยรถยนต์หนึ่งคันปล่อย CO2 มากถึง 100 - 200 กรัมต่อกิโลเมตร ในหนึ่งเดือนเราใช้รถยนต์มากกว่า 3,000 กิโลเมตร ในปี ค.ศ. 2022 ที่ผ่านมามีรถยนต์จดทะเบียนใหม่ในประเทศไทยเพิ่มขึ้นถึง 1 ล้านคัน ดังนั้น ใน 1 ปี จะมีการเพิ่มปริมาณ CO2 ในอากาศมากมายเพียงใด ส่งผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมมากเท่าไร

              ปัจจุบันมีหลายหน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชน ที่มีนโยบายและการดำเนินงานในการควบคุม/ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และลดผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จากกระบวนการต่างๆ ในภาคพลังงานและการขนส่ง ทั้งนี้ กระทรวงพลังงาน มีการจัดทำแผนพลังงานชาติ เพื่อเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกและมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี ค.ศ. 2050 โดยการเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทน การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและใช้พลังงาน และสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ในการเดินทาง

              ในส่วนตัวอย่างของภาคเอกชน ได้แก่ บริษัท ทีซี คาร์ โซลูชั่นส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งมีเป้าหมายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี ค.ศ. 2040 โดยได้ริเริ่มบริการ “รถเช่าพร้อมด้วยคาร์บอนเครดิต” เป็นบริการชดเชยคาร์บอนด้วยคาร์บอนเครดิต TVERs จากโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (T-VER) ซึ่งให้การรับรองโดย องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ซึ่งบริการนี้จะสามารถชดเชย CO2 ที่ปล่อยมาจากการใช้รถยนต์ที่องค์กรเช่าได้ นอกจากนี้ยังให้บริการเช่ารถไฟฟ้า (EV Leasing) สำหรับลูกค้าองค์กร เพื่อที่จะขับเคลื่อนสังคมคาร์บอนต่ำ ให้ทุกองค์กรบรรลุจุดมุ่งหมายในการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน