กรมสรรพากร ให้ประโยชน์ทางภาษีแก่ผู้ให้การสนับสนุนชุมชน ในการดูแลรักษาป่าชุมชน ซึ่งอยู่นอกเขตป่าอนุรักษ์ เพื่อให้ชาวบ้านได้ใช้ประโยชน์ เก็บหาของป่า พืชผัก และสมุนไพร มาใช้ในครัวเรือนได้ ซึ่งจากข้อมูลที่สำรวจไว้ มีป่าชุมชนที่ยังไม่ได้รับเงินอุดหนุนอยู่ 4,149 หมู่บ้าน รวมเนื้อที่ 1,500,000 กว่าไร่
กรมสรรพากร ให้ประโยชน์ทางภาษีแก่ผู้ให้การสนับสนุนชุมชน ในการดูแลรักษาป่าชุมชน ซึ่งอยู่นอกเขตป่าอนุรักษ์ เพื่อให้ชาวบ้านได้ใช้ประโยชน์ เก็บหาของป่า พืชผัก และสมุนไพร มาใช้ในครัวเรือนได้ ซึ่งจากข้อมูลที่สำรวจไว้ มีป่าชุมชนที่ยังไม่ได้รับเงินอุดหนุนอยู่ 4,149 หมู่บ้าน รวมเนื้อที่ 1,500,000 กว่าไร่
เงื่อนไข คือ บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล เมื่อบริจาคเงินให้กับป่าชุมชน สามารถนำมาหักเป็นรายจ่ายได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินร้อยละ 2 ของกำไรสุทธิ โดยจะต้องทำเป็นโครงการ "ภาคีสนับสนุนป่าชุมชนลดโลกร้อน" มีการสนับสนุนไม่ต่ำกว่าหมู่บ้านละ 100,000 บาท และต้องมีหลักฐานใบเสร็จรับเงินจากกรมป่าไม้
การสนับสนุนนอกจากด้านงบประมาณแล้ว ยังมีด้านเทคโนโลยีและอุปกรณ์ เช่น การสร้างฝายชะลอน้ำ การทำแนวกันไฟ รวมถึงการเสริมสร้างศักยภาพและการจัดการความรู้ เช่น แหล่งเรียนรู้ป่าชุมชน
มาตรการนี้เริ่มแล้ว จนถึง 31 ธันวาคม 2565 แนวคิดนี้ มีเป้าหมายว่านอกจากสนับสนุนชุมชนให้มีกำลังใจในการดูแลรักษาป่าภายในชุมชนของตนเองแล้ว ยังช่วยให้ป่าอุดมสมบูรณ์ขึ้น เป็นแหล่งดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ช่วยลดภาวะโลกร้อน ลดค่าใช้จ่ายของรัฐ และนำไปสู่การรักษาฐานทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ
โครงการนี้จะทำต่อเนื่องไปจนถึงปี 2565 เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยกันฟื้นฟูดูแลป่า เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับประเทศเรา ที่สำคัญประโยชน์ตกสู่ชุมชน
ที่มาของข่าว: news.ch7.com