facebook
icon telephoneCall Center02-141-9790
ค้นหา
icon switch languageภาษา
ขนาดตัวอักษร
การแสดงผล
icon line icon youtube icon tiktok
banner_list
  • [image_name]
  • [image_name]
  • [image_name]
  • [image_name]
  • [image_name]
  • [image_name]
  • [image_name]
  • [image_name]
  • [image_name]
  • [image_name]

ทส. เปิด “ศูนย์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม” เชื่อมโยงข้อมูล 76 จังหวัด เป็นคลังความรู้เรื่องโลกร้อน สื่อสารสู่ประชาชน

15 ก.ค. 66

                วันที่ 15 กรกฎาคม 2566 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) โดย นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เป็นประธานเปิดศูนย์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม พร้อมติดตามความก้าวหน้าศูนย์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของแต่ละจังหวัด โดยมี นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ ทส. องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ TGO และนักศึกษา หลักสูตร ปธส.10 เข้าร่วม ณ ศูนย์บริการประชาชน กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม และผ่านทางระบบ Video Conference ซึ่งการเปิดศูนย์ฯ ครั้งนี้ นับเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม เพื่อเตรียมพร้อมรองรับ กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ให้สามารถเดินหน้าสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี ค.ศ. 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero GHG Emission) ภายในปี ค.ศ. 2065 อย่างมีประสิทธิภาพ

              นายวราวุธฯ รมว.ทส. กล่าวว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการจัดตั้งศูนย์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมนี้ จะเป็นศูนย์หลักที่ประสานและบูรณาการข้อมูลร่วมกับศูนย์ประสานงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความหลากหลายทางชีวภาพของทุกจังหวัดทั่วประเทศ รวมถึงรวบรวมข้อมูลการลดและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศ เป็นศูนย์เรียนรู้และสื่อสารข้อมูลองค์ความรู้ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมทั้งติดตามการพยากรณ์และคาดการณ์ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ในจังหวัด ท้องถิ่น และประชาชน สามารถนำข้อมูลที่เกี่ยวข้องไปใช้ให้เกิดประโยชน์ โดยที่ผ่านมาได้มีการเปิดศูนย์ระดับจังหวัดไปแล้ว 3 ศูนย์ คือ จังหวัดกระบี่ จังหวัดเลย และจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งหากเปิดตัวครบทั้ง 76 จังหวัด จะทำให้มีความพร้อมของข้อมูลสำหรับการตัดสินใจและแก้ไขปัญหาทั้งในระดับจังหวัด และภาพรวมของประเทศ ทั้งในเรื่องการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และเรื่องความหลากหลายทางชีวภาพได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น