facebook
icon telephoneCall Center02-141-9790
ค้นหา
icon switch languageภาษา
ขนาดตัวอักษร
การแสดงผล
icon line icon youtube icon tiktok
banner_list
  • 1358

ทีมสำรวจขั้วโลกใต้พบการเปลี่ยนแปลงจากสภาพภูมิอากาศ

22 มี.ค. 60

ทีมสำรวจขั้วโลกใต้ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมขั้วโลกใต้ โดยเฉพาะปลาที่พบว่ามีพยาธิเกาะที่ลำตัวและภายในตัวจำนวนมาก คาดเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้น

คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดเสวนาเรื่อง “จากขั้วโลกใต้ถึงไทย เปิดข้อมูลการค้นพบใหม่โดยนักวิจัยคณะวิทย์ฯจุฬาฯ” โดยทีมสำรวจขั้วโลกใต้โครงการขั้วโลกตามพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เดินทางกลับมาพร้อมผลการสำรวจเบื้องต้น

รศ.ดร.ฐาสิณีย์ เจริญฐิติรัตน์ ทีมสำรวจขั้วโลกใต้ กล่าวว่า จุดสำรวจพื้นที่ขั้วโลกใต้ ในทวีปแอนตาร์กติก อยู่บริเวณสถานีวิจัยเกรทวอล ใกล้กับประเทศชิลี โดยพบว่าชั้นตะกอนภูเขาไฟ สามารถขุดค้นพบฟอสซิลพืชและสัตวืมีกระดูกสันหลังจำนวนมาก คาดการณ์ว่าฟอสซิลพืชที่พบมีอายุประมาณ 47-23 ล้านปี ลักษณะเช่นนี้บ่งชี้ได้ว่าบริเวณนี้ในอดีตมีอุณหภูมิที่เหมาะสมและอบอุ่นเพียงพอ ให้พืชสามารถเจิรญเติบโตได้อย่างดี ซึ่งต่างจากปัจจุบันที่ขั้วโลกใต้นี้เป็นพื้นที่แห้งแล้งที่สุด หนาวที่สุด และมีฝนน้อยมาก ทำให้พืชหรือสิ่งมีชีวิตบางอย่างไม่สามารถอยู่ได้

ด้าน รศ.ดร.สุชนา ชวนิชย์ อาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล กล่าวว่า การสำรวจยังพบความเปลี่ยนแปลงเนื่องจากภาวะโลกร้อนเพิ่มมากขึ้นด้วย โดยจากการทดลองตรวจสอบปลาบริเวณขั้วโลกใต้ มีการเปลี่ยนแปลงมากอย่างเห็นได้ชัด โดยพบว่าปลาตั้งแต่ปี 252 ตัวอย่างปลามีลักษณะของพยาธิตเกาะติดที่ลำตัวจำนวนมาก ซึ่งจากอดีตปี 2547 ที่มีการสำรวจไม่พบพยาธิในปลาแต่อย่างใด และล่าสุดตัวอย่างปลาขั้วโลกใต้ที่เก้บได้ในปี 2559 พบว่าร้อยละ 80 ของปลามีพยาธิอาศัยอยู่นอกตัว 6-7 ตัวต่อปลา 1 ตัว และเมื่อผ่าศึกษาภายในกระเพาะปลายังพบพยาธิและไข่พยาธิด้วยเช่นกัน ทั้งนี้มีความเป็นไปได้ว่าพยาธิในปลาจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 ต่อปี ด้วยสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของโลกที่สูงขึ้น ทำให้สิ่งมีชีวิตบางชนิดปนเปื้อนเข้ามาในพื้นที่ และสามารถอาศัยอยู่ได้ นอกจากนี้ยังพบพฤติกรรมปลาเปลี่ยนไปมีการปรับตัวหาอาหารและกินอาหารประเภทหอย หมึก แทนกุ้งและเคยที่มีจำนวนลดลง

ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศยังส่งผลกระทบต่อเพนกวิน และแมวน้ำ โดยลูกแมวน้ำ และเพนกวิน มีอัตราการรอดที่ลดลงน้อยกว่าร้อยละ 10 อย่างไรก็ตามผลกระทบจากสถานการณ์ขั้วโลกใต้ซึ่งได้รับผลจากภาวะก๊าซเรือน อาจเป็นสัญญานเตือนให้ทั่วโลกตระหนักถึงปัญหา และร่วมหาแนวทางแก้ไขอย่างจริงจัง ซึ่งไทยเองก็มีส่วนได้รับผลกระทบเช่นกัน ทั้งจากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น และสิ่งแวดล้อมทางทะเลที่มีผลต่อสัตว์น้ำลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว


ที่มาของบทความและรูปภาพประกอบ: http://www.tnamcot.com