facebook
icon telephoneCall Center02-141-9790
ค้นหา
icon switch languageภาษา
ขนาดตัวอักษร
การแสดงผล
icon line icon youtube icon tiktok
banner_list
  • 2061

นับถอยหลังเหลือ "11 ปี" ถึงเวลาหายนะโลกร้อน

01 พ.ค. 62

  สหประชาชาติเตือน ปี พ.ศ. 2573 น้ำท่วมใหญ่ แห้งแล้งและอากาศร้อนจัด หนาวจัด ไฟป่า พายุ ขาดแคลนอาหาร ผู้คนล้มตาย สัตว์สูญพันธุ์ เนื่องจากวิกฤิตโลกร้อน และสภาพภูมิอากาศแปรปรวน หากเราไม่ลงมือทำอะไรเลย

  สหประชาชาติเตือน ปี พ.ศ. 2573 น้ำท่วมใหญ่ แห้งแล้งและอากาศร้อนจัด หนาวจัด ไฟป่า พายุ ขาดแคลนอาหาร ผู้คนล้มตาย สัตว์สูญพันธุ์ เนื่องจากวิกฤิตโลกร้อน และสภาพภูมิอากาศแปรปรวน หากเราไม่ลงมือทำอะไรเลย

     เป็นที่ทราบกันดีว่าภาวะโลกร้อน เกิดจากที่การกระทำของมนุษย์ทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มสูงขึ้น เช่น การเผาไหม้ การปล่อยควัน ก๊าซเรือนกระจกและคาร์บอนไดออกไซด์ และการตัดไม้ทำลายป่า ซึ่งส่งผลกระทบให้เราได้เห็นแล้วในปัจจุบันนี้ ทั้งปัญหาสภาพอากาศแปรปรวน คลื่นความร้อน ความหนาวจัด หมอกควันพิษ น้ำแข็งขั้วโลกละลาย น้ำทะเลสูงขึ้นและอุณหภูมิสูงขึ้น ฝนและพายุแรงขึ้น ที่ส่งผลร้ายต่อสิ่งมีชีวิตและมนุษย์อย่างมาก

     วิกฤติโลกร้อนไม่หยุดเพียงเท่านี้ เพราะภัยพิบัติครั้งใหญ่กำลังมาเยือนหากเราไม่ลงมือแก้ไขตอนนี้ รายงานจากคณะกรรมการของสหประชาชาติ (UN) ด้านความร่วมมือระหว่างรัฐบาล เกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก (IPCC) เตือนว่า จากอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกสู่บรรยากาศในปัจจุบัน ปี พ.ศ. 2573 อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกอาจเพิ่มสูงขึ้น 1.5 องศาเซลเซียส เหนือระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม และจะทำให้เกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ เช่น ภาวะแห้งแล้งจากไฟป่า อากาศร้อนจัด รวมทั้งการขาดแคลนอาหารทั่วโลก น้ำท่วมใหญ่ ซึ่งกรุงเทพฯ เป็นหนึ่งในเมืองที่อาจจะจมอยู่ใต้น้ำ



     อุณหภูมิของโลกเฉลี่ยในปัจจุบันเพิ่มขึ้นไปแล้วประมาณ 1 องศาเหนือระดับอุณหภูมิก่อนยุคอุตสาหกรรมแล้ว และถ้าหากอุณภูมิโลกเฉลี่ยร้อนเกินกว่า 1.5 องศาเซลเซียส เหนือระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม โลกจะต้องเกิดภัยพิบัติหลาย ๆ อย่างตามมา จึงต้องเร่งอาศัยความร่วมมือของทุกประเทศทั่วโลก

     อันที่จริงเรามีข้อตกลงที่เกี่ยวกับสภาพอากาศ คือ ข้อตกลงปารีส ที่กำหนดว่าแต่ละประเทศจะต้องช่วยกันควบคุมอุณหภูมิเฉลี่ยของโลก ไม่ให้เพิ่มขึ้นเกิน องศาฯ เหนือระดับอุณหภูมิช่วงก่อนยุคอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม IPCC เสนอว่า เราควรรักษาอุณหภูมิไม่ให้เกิน 1.5 องศาฯ เพราะ 2 องศาฯ นั้นถือว่ารุนแรงมากเกินไป และอาจทำให้ปะการังตายหมดทั่วโลก

     การแก้ไขปัญหาโลกร้อนและลดก๊าซเรือนกระจก จะต้องอาศัยความเปลี่ยนแปลงในการใช้พลังงาน การคมนาคมขนส่ง อุตสาหกรรม การอยู่อาศัยในเขตเมือง การเร่งเพิ่มต้นไม้ละพื้นที่สีเขียว หยุดใช้เชื้อเพลิงและพลังงานที่ก่อก๊าซเรือนกระจกและคาร์บอนฯ เช่น ฟอสซิล พลังงานถ่านหิน น้ำมัน และเปลี่ยนมาใช้พลังงานทดแทน เป็นต้น



     อย่างไรก็ดีขณะที่ทั่วโลกพยายามทำตามข้อตกลงปารีสนี้ไม่มากก็น้อย แต่เรามีเรื่องช็อกในปี 60 เมื่อรัฐบาลสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีทรัมป์ ประกาศถอนตัว โดยอ้างว่าข้อตกลงนี้ไม่เป็นธรรมแก่สหรัฐฯ และขัดต่อผลประโยชน์ของประเทศ

     ทุกประเทศรวมถึงประเทศไทย จะต้องร่วมมือกันเร่งมาตรการแก้ไขและให้ความสำคัญปัญหาโลกร้อนเหนือสิ่งอื่นใด ให้สอดคล้องกับข้อตกลงปารีสโดยเร็วที่สุด ก่อนที่จะสายเกินไป และหากเราไม่ลงมือทำอะไรเพื่อแก้ไขเลย หายนะจากโลกร้อนกำลังรอเราอยู่ในปี พ.ศ. 2573 หรือเหลือเพียงอีก 11 ปีข้างหน้า.
………………………

ขอขอบคุณ: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

คอลัมน์ : พุ่มไม้ใบบัง
โดย “ร่มธรรม ขำนุรักษ์”
ขอบคุณภาพประกอบจาก : Pixabay