"ระดับน้ำแม่น้ำโขงต่ำสุดในรอบ 10 ปี ข้าวในทุ่งกุลาร้องไห้ยืนต้นตายแล้ว" ภาวะโลกร้อนกำลังส่งผลกระทบต่อประเทศต่างๆ ทั่วโลก ไม่เว้นประเทศไทย ลาว จีน ที่อยู่ในลุ่มแม่น้ำโขง ล่าสุด พบว่า ระดับน้ำแม่น้ำโขงมีปริมาณน้อยและต่ำสุดในรอบ 10 ปี อยู่ที่ 2.6 เมตร ซึ่งต่ำกว่าระดับน้ำล้นตลิ่งถึง 10 เมตร โดยปีที่แล้วอยู่ที่ระดับ 12 เมตร
นอกจากนี้ ทุ่งกุลาร้องไห้ อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด พื้นที่นากว่า 10000 ไร่ ในเขตตำบลทุ่งหลวงและอีกหลายตำบลเผชิญปัญหาภัยแล้ง น้ำในคลองแห้งขอดและข้าวเหี่ยวเฉายืนต้นตาย ชาวบ้านให้ข้อมูลว่าโดยปกติทำนาได้ข้าว 5 ตัน ปีที่แล้วลดเหลือ 2 ตัน และปีนี้อาจยิ่งแย่กว่าเดิมหากฝนไม่ตกลงมาเพราะข้าวในนาได้แห้งตายไปแล้ว 70- 80%
เช่นเดียวกับแม่น้ำโขงตั้งแต่อำเภอเชียงคาน ถึงอำเภอปากชม จังหวัดเลย พบว่า ระดับน้ำแห้งจนเห็นสันดอนทรายเป็นทางยาว เป็นเกาะแก่งกลางน้ำโขง โดยเฉพาะแก่งคุดคู้ สามารถมองเห็นโขดหินโผล่อย่างชัดเจน ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ตามลุ่มน้ำโขง เริ่มได้รับผลกระทบแล้วเพราะไม่สามารถสูบน้ำมาใช้ทำการเกษตรได้
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานว่า ปีนี้หน้าร้อนมาเร็วและยาวนานกว่าทุกปี หลายคนอาจจะรู้สึกว่าฤดูฝนปีนี้อากาศร้อนและฝนก็มาน้อยกว่าปกติ ทั้งนี้ ภัยแล้งเริ่มมาตั้งแต่เดือนมีนาคม และคาดว่าจะทำให้เกิดการสูญเสียทางเศรษฐกิจซึ่งอาจจะเพิ่มขึ้นถึงเดือนละ 1,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นมูลค่าเงินถึง 15,300 ล้านบาท
ขณะเดียวกันประเทศต่างๆ ทั่วโลกล้วนประสบภัยธรรมชาติในรูปแบบที่แตกต่างกันไปตามโซนที่ตั้ง ซึ่งมีสาเหตุจากภาวะโลกร้อนที่ส่อเค้ารุนแรงมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจและสังคมทั้งทางตรงและทางอ้อม
มนุษย์จะสามารถลดความรุนแรงเหล่านี้ลงได้หรือไม่ ถือว่าเป็นความท้าทายอย่างยิ่งกับเวลาที่ยังเหลืออีกไม่มาก โดยเฉพาะแนวทางเพื่อจะลดการปล่อยคาร์บอนที่เป็นต้นเหตุจากที่มนุษย์สร้างขึ้น อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (IPCC) ได้ขีดเส้นไว้ว่า พวกเราจะต้องควบคุมอุณหภูมิของโลกให้เพิ่มขึ้นไม่เกิน 1.5 เซลเซียส ภายในปี 2030 ก่อนสภาวะอากาศจะเสียหายอย่างถาวร
ที่มาของข่าว: www.mgronline.com