จาการ์ตา โพสต์รายงานว่า ในระหว่างเป็นประธานการประชุมบอร์ดพลังงานแห่งชาติ (DEN) ครั้งล่าสุด นายโจโกวีประกาศเร่งพัฒนาพลังงานทางเลือกให้เร็วกว่าแผนที่วางไว้ โดยเพิ่มสัดส่วนพลังงานจากแหล่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็น 23% ของกำลังการผลิตพลังงานทั้งหมด หรือเพิ่มขึ้น 5 เท่าจากปัจจุบัน ภายในปี 2568

ผู้นำอินโดนีเซียมองว่า ขณะนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับการวางโรดแมปด้านพลังงานที่ครอบคลุมมากขึ้น เพื่อเป็นแนวทางสำหรับรัฐบาลกลาง รัฐบาลท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในการทำงานร่วมกันในระยะยาว

"ผมหวังว่าแผนโรดแมปพลังงานแห่งชาติจะเป็นคำตอบของปัญหาพลังงานที่เรากำลังเผชิญและเตรียมพร้อมรับมือปัญหาที่จะมาถึงในอนาคต"

ด้านกระทรวงพลังงานและทรัพยากรแร่ธาตุของอินโดนีเซียเผยว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ มีการลงทุนในพลังงานทางเลือกเป็นมูลค่า 325 ล้านดอลลาร์ซึ่งคิดเป็น 23% ของเป้าหมายทั้งปีนี้ที่กำหนดไว้ที่ 1,370 ล้านดอลลาร์ โดยแบ่งเป็นการลงทุนในพลังงานชีวมวล 250 ล้านดอลลาร์ และพลังงานความร้อนใต้พิภพ 75 ล้านดอลลาร์

รัฐบาลมีแผนจะดึงเงินลงทุนเข้ามาในเซ็กเตอร์พลังงานทางเลือกมากขึ้น ด้วยการลดขั้นตอนการขอใบอนุญาตและให้สิทธิพิเศษทางภาษี หวังเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานสะอาดให้ได้ตามเป้า เช่น เพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์เป็น 5,000 เมกะวัตต์ และพลังงานความร้อนใต้พิภพ 2,000 เมกะวัตต์

อย่างไรก็ตาม นายเจฟฟรีย์ แซกส์ นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบียมองว่าอินโดนีเซียมีศักยภาพด้านพลังงานสีเขียวมากกว่านั้น "ประเทศนี้มีศักยภาพด้านพลังงานสะอาดที่หลากหลาย เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ ลม ความร้อนใต้พิภพ ส่วนพลังงานนิวเคลียร์ควรถูกนำมาพิจารณาด้วย เพื่อต่อสู้กับภาวะโลกร้อนอย่างมีประสิทธิภาพ"

ที่มาของบทความและรูปภาพประกอบ http://www.prachachat.net