facebook
icon telephoneCall Center02-141-9790
ค้นหา
icon switch languageภาษา
ขนาดตัวอักษร
การแสดงผล
icon line icon youtube icon tiktok
banner_list
  • [image_name]
  • [image_name]
  • [image_name]

อีกระดับของเศรษฐกิจหมุนเวียน ลดคาร์บอนทั้งระบบ สู่ความยั่งยืนในอนาคต

27 ต.ค. 63

ทุกวันนี้การมองปัญหาภาวะโลกร้อนเพียงแค่การรีไซเคิล หรือนำกลับมาใช้ใหม่ไม่เพียงพออีกต่อไป เราจะต้องมองกว้างและลึกลงไปทั้งระบบตั้งแต่ทรัพยากรที่นำมาใช้ ขั้นตอนการผลิต จนถึงปลายทาง เราจะลดผลกระทบจากคาร์บอนที่ปล่อยออกมาในแต่ละส่วนได้อย่างไร เพื่อส่งเสริมให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนแบบคาร์บอนต่ำ สร้างประโยชน์สูงสุดในการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า เพราะทุกคนล้วนมีส่วนช่วยให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้นและโลกน่าอยู่ขึ้น

องค์ประกอบของเศรษฐกิจหมุนเวียนแบบคาร์บอนต่ำ

ในระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน ผู้ผลิตจะออกแบบให้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้แล้ว สามารถนำกลับมาใช้ได้ใหม่ และสามารถนำไปรีไซเคิลได้ เพื่อลดกระสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่สำหรับเศรษฐกิจหมุนเวียนแบบคาร์บอนต่ำนั้น ผู้ผลิตต้องมองลึกไปถึงกลยุทธ์ในการลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์  ที่ถูกปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศในทุก ๆ ขั้นตอน ตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบ การผลิต จัดส่งถึงมือผู้บริโภค ไปจนถึงการจัดการกับขยะเหลือทิ้ง เพราะนั่นเป็นอีกหนึ่งสาเหตุหลัก ของภาวะเรือนกระจก ที่นำไปสู่ปัญหาภาวะโลกร้อนในระยะยาว
 

การดำเนินงานแบบคาร์บอนต่ำ

ด้วยการใช้หลักการผลิตระดับโลก ทำให้การดำเนินงานของโรงงานและสำนักงานของเรามีประสิทธิภาพมากขึ้น เราสามารถลดการใช้พลังงาน น้ำ และลดปริมาณของเสีย ในขณะเดียวกัน เราต้องมองถึงอนาคต และค้นหาวิธีการจัดการ ผลกระทบอย่างต่อเนื่อง วิธีหนึ่ง คือ เพิ่มการใช้พลังงานทดแทน เศรษฐกิจหมุนเวียนแบบคาร์บอนต่ำนั้น ขึ้นอยู่กับพลังงานทดแทน และการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพสูง เราจึงมุ่งเน้นการทำงานตามพันธสัญญา RE100* ว่าด้วยการใช้พลังงานไฟฟ้าทดแทน ในการผลิตทั่วโลก 100% ให้ได้ภายในปี 2030  เพื่อจัดหาแหล่งพลังงานทดแทน 100% และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 42% ไปพร้อมกัน
 
ในประเทศไทย เต็ดตรา แพ้ค ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์จำนวน 3,076 แผง บนหลังคาโรงงานผลิตในจังหวัดระยอง โดยจะสามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าทดแทนได้ถึง 1,350 เมกะวัตต์ชั่วโมงในแต่ละปี และช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ได้มากกว่าปีละ 850 ตัน

การลดขยะเหลือทิ้งจากอาหาร

องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติระบุว่า ปัจจุบัน เศษอาหารที่เหลือคิดเป็น 8% ของการปล่อยก๊าซ เรือนกระจก และจัดเป็นหนึ่งในต้นทุนทางการเงินของธุรกิจ ซึ่งในระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนแบบคาร์บอนต่ำ จะต้องใช้ต้นทุนนี้ ให้น้อยที่สุด เต็ดตราแพ้ค ยืนยันตามความมุ่งมั่นของเราที่จะทำให้อาหารปลอดภัย และมีพร้อมสำหรับการบริโภคในทุกที่  บรรจุภํณฑ์และอุปกรณ์เครื่องจักรในกระบวนการผลิตและบรรจุของเรา ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดการสูญเสีย ของอาหารและเครื่องดื่ม
 

โลจิสติกส์แบบคาร์บอนต่ำ

เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมอื่นๆ การขนส่งอาหารและเครื่องดื่มนั้น มีต้นทุนคาร์บอนอยู่เสมอ จากการจัดส่งบรรจุภัณฑ์หรือ ผลิตภัณฑ์ที่บรรจุอาหารและเครื่องดื่มพร้อมจำหน่ายไปยังห้างร้านต่างๆ  แต่เราลดผลกระทบเหล่านี้ได้ด้วยบรรจุภัณฑ์ ที่เป็นนวัตกรรม เช่น กล่องรุ่น Tetra Recart® สำหรับบรรจุอาหารในกล่องสี่เหลี่ยมที่มีน้ำหนักเบา ทำให้สามารถเพิ่มจำนวนกล่อง ในแต่ละเที่ยวรถขนส่งได้มากกว่า 10 - 20%  และยังพบว่าช่วยลดผลกระทบต่อสภาพอากาศโดยรวมให้ต่ำกว่าวัสดุประเภท เหล็กหรือแก้วได้ถึง 5 เท่า

สนับสนุนการใช้ทรัพยากรทดแทนได้

ทรัพยากรหรือวัตถุดิบทดแทนได้ มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจหมุนเวียนแบบคาร์บอนต่ำ วัสดุจากพืช เช่น ไม้ สามารถเติมเต็มหมุนเวียนตามธรรมชาติได้ตลอดเวลา ทำให้เราสามารลดการพึ่งพาทรัพยากรที่มีอย่างจำกัด และเมื่อป่าปลูกที่เป็นทรัพยากรทดแทนได้เหล่านี้ ได้รับการดูแลและจัดการอย่างมีความรับผิดชอบ จึงทำให้เกิดผลกระทบ ต่อสภาพภูมิอากาศในเชิงบวก ด้วยการส่งเสริมการจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน และปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ เต็ดตรา แพ้ค ทำงานร่วมกับ Forest Stewardship Council™ (FSC™)​ มาโดยตลอด ฉลาก FSC แสดงการรับรองมาตรฐานสูงสุดของโลกในด้านการบริหารจัดการป่าไม้ ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเลือกผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ที่สร้างความมั่นใจในการสนับสนุนการจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน ซึ่ง กล่องเครื่องดื่มของเต็ดตรา แพ้คทั่วโลกส่วนใหญ่และทั้งหมดในประเทศไทยติดฉลาก FSC

วางรากฐานกระบวนการรีไซเคิล

การรีไซเคิลเป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจหมุนเวียนแบบคาร์บอนต่ำ ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อลดของเสียและเก็บวัสดุไว้ใช้ประโยชน์ ได้นานขึ้น ซึ่งกล่องเครื่องดื่มของเต็ดตรา แพ้ค สามารถนำกลับไปรีไซเคิลได้ โดยเปลี่ยนเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ได้หลากหลาย เราทำงานกับหน่วยงานเอกชนและภาครัฐในแต่ละพื้นที่ เพื่อปรับปรุงส่วนที่เชื่อมต่อแต่ละจุดในกระบวนการจัดเก็บ คัดแยกและรีไซเคิลกล่องเครื่องดื่ม สำหรับประเทศไทยนั้น มีการรณรงค์นำกล่องเครื่องดื่มใช้แล้วไปผลิตเป็นผ่นหลังคา ในนาม โครงการหลังคาเขียวเพื่อมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภ​าฯ) ยามยาก​ ซึ่งดำเนินการมาสิบปีแล้ว นอกจากนั้น ยังมีโครงการรีไซเคิลกล่องนมโรงเรียนในกรุงเทพมหานคร และโครงการกล่องยูเอชทีรีไซเคิลได้ ที่เต็ดตรา แพ้ค ได้ร่วมกับ บริษัทผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์รายอื่น โรงงานรีไซเคิล และหน่วยงานท้องถิ่น มาอย่างต่อเนื่อง โดยในปัจจุบัน ทั่วโลกมีการรีไซเคิล กล่องเครื่องดื่มกว่าหนึ่งล้านตันต่อปี
 
กระบวนการที่เกี่ยวข้องในห่วงโซ่การดำเนินงานทั้งหมด ตามแนวทางของเศรษฐกิจหมุนเวียนแบบคาร์บอนต่ำนั้น จะได้รับการปรับให้เหมาะสม และก่อผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศน้อยที่สุด ซึ่งหมายถึง การดำเนินงานที่ขับเคลื่อน ด้วยพลังงานทดแทน กระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพสูง และการขนส่งที่ลดการใช้เชื้อเพลิง
สำหรับเรา เศรษฐกิจหมุนเวียนแบบคาร์บอนต่ำ จึงต้องเป็นการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั้งระบบให้มากที่สุดเพื่อมุ่งสู่ความยั่งยืนของสังคมในอนาคต

* RE100 คือ การรวมตัวของกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจเอกชนชั้นนำของโลก นำโดยเดอะไคลเมทกรุ๊ป (The Climate ​​Group) ร่วมกับซีดีพี (CDP) โดยมีเป้าหมายในการผลักดันความต้องการและการผลิต

ที่มา : เต็ดตรา แพ้ค