สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก หรือดับเบิลยูเอ็มโอ ที่ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ระบุว่า ปี 2558 นี้ จะกลายเป็นปีที่ร้อนที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกมา และในปี 2559 อุณหภูมิโลกอาจจะสูงขึ้นอีก เนื่องจากสภาพอากาศที่เกิดจากปรากฏการณ์เอลนีโญ พร้อมกับเตือนว่าหากยังไม่ดำเนินการใดๆเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก อาจจะได้เห็นอุณหภูมิโลกโดยเฉลี่ยสูงขึ้นถึง 6 องศาเซลเซียสหรือมากกว่านั้น
นายมิเชล ชาร์โรด์ ผู้อำนวยการดับเบิลยูเอ็มโอ เปิดเผยว่า มีความเป็นไปในว่าในที่ประชุมผู้นำโลก ว่าด้วยเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ที่จะเริ่มในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ จะมีการทำข้อตกลงเพื่อหาทางควบคุมอุณหภูมิโลก อย่างไรก็ตาม คงไม่มีอะไรที่จะสามารถหยุดยั้งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกได้ รวมไปถึงข้อตกลงที่เข้มแข็งจากที่ประชุมในกรุงปารีส หากแต่ประชาชนจะต้องช่วยกัน เช่น เลือกที่จะใช้รถสาธารณะ แทนรถยนต์ส่วนตัว หรือให้บรรดาผู้ประกอบการอุตสาหกรรมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง แต่หากยังปล่อยปละละเลยอุณหภูมิโลกอาจจะสูงขึ้นอีก 5-6 องศาเซลเซียสหรือมากกว่านั้น
ทั้งนี้ รายงานของดับเบิลยูเอ็มโอ ระบุว่า อุณหภูมิบนพื้นผิวโลกโดยเฉลี่ยในปี 2558 กำลังจะถึงจุดที่ดับเบิลยูเอ็มโอเรียกว่าเป็น "สัญลักษณ์และจุดที่มีนัยสำคัญ" คืออุณหภูมิที่สูงกว่าช่วงก่อนหน้ายุคอุตสาหกรรม ในช่วงค.ศ.1880-1899 1.0 องศาเซลเซียส และมากกว่าค่าเฉลี่ยอุณหภูมิของปี 1961-1990 ที่เป็นค่ากลางในการเปรียบเทียบราว 0.73 องศาเซลเซียส
นายชาร์โรด์ กล่าวว่า 16-20 เปอร์เซ็นต์ของอุณหภูมิที่สูงขึ้นในปีนี้อาจจะเนื่องมาจากปรากฏการณ์เอลนีโญ และคาดว่าในปีหน้าอุณหภูมิโลกจะเพิ่มสูงขึ้นไปอีก อันเนื่องจากเอลนีโญ ที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อเนื่องไปจนถึงปี 2559
ที่มาของบทความ: http://www.matichon.co.th
ที่มาของรูปภาพประกอบ: http://www.onenee.com