เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทางรัฐบาลเยอรมณี ได้ประกาศแผนการปิดโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหิน กำลังการผลิต 2.7 กิกะวัตต์ ตามนโยบายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้ได้ร้อยละ 40 ภายในปี 2020
แม้จะยังไมได้ประกาศอย่างเป็นทางการ ว่าโรงไฟฟ้าแห่งใดบ้างที่ต้องถึงกาลอวสานลง แต่เป็นที่แน่นอนแล้วว่าทางรัฐบาลเยอรมณีกำลังเดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ในการลดมลพิษที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
เยอรมนี ถือเป็นประเทศหนึ่ง ที่กลายเป็นแบบอย่างในการดำเนินการทางด้านสิ่งแวดล้อมระดับโลก ด้วยเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้ได้ร้อยละ 40 ภายในปี 2020 ซึ่งเป็นสิ่งท้าทายในการบรรลุถึงจุดหมายที่วางไว้ให้ได้ "Sigmar Gabriel" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของเยอรมนี จึงเดินหน้ามาตรการครั้งสำคัญ ด้วยการลดกำลังการผลิตเชื้อเพลิงถ่านหิน
อย่างไรก็ตามแผนการของ "Sigmar Gabriel" ใช่ว่าจะไม่มีอุปสรรค เพราะทางภาคอุตสาหกรรมนั้นปฏิเสธในการเข้าร่วม โดยข้อเสนอเดิมของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานก็คือ การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการปิดโรงงานที่เก่าแก่สุด แต่ผู้นำในภาคอุตสาหกรรมกล่าวว่า การกระทำดังกล่าวจะก่อให้เกิดความเสี่ยงในการว่างงานสูงถึง 100,000 ราย เกิดผลกระทบจากรายได้ที่ต้องสูญเสียไปและเตรียมเรียกร้องเงินชดเชยถ้าแผนการนั้นได้รับการอนุมัติ
ที่มาของข่าวและรูปภาพประกอบ: http://www.energysavingmedia.com