และพันธุ์ที่ต่างประเทศนิยมปลูกกันนั้นจะไม่เหมือนบ้านเรา ที่นิยมผลขนาด 4-5 กก. เปลือกบาง ในขณะที่ต่างประเทศนิยมผลโตขนาด 10-14 กก. เปลือกหนาเพื่อลดความเสียหายจากการขนส่ง

และที่ไม่น่าเชื่อไปกว่านั้น ทั้งที่คนไทยปลูกจนมีแตงโมให้ซื้อกินกันได้ทั้งปี เมล็ดพันธุ์ที่ผลิตได้ในบ้านเราเกือบทั้งหมดถูกส่งไปขายต่างประเทศ

“เมล็ดพันธุ์แตงโมที่บริษัทเราผลิตได้ปีละ 50-60 ตัน ส่งขายป้อนตลาดในประเทศแค่ 1% เท่านั้นเอง ที่เหลืออีก 99% ส่งออกไปขายต่างประเทศ มีทั้ง ยุโรป แอฟริกา อเมริกาใต้ ตะวันออกกลาง เอเชียใต้ และวันนี้ความต้องการพันธุ์แตงโมของต่างประเทศมีแนวโน้มเริ่มเปลี่ยนไป นอกจากต้องการพันธุ์ที่ทนทานต่อโรคเหี่ยวที่เกิดจากเชื้อรา ยังต้องการพันธุ์ที่มีความหวานมากขึ้น สีแดงเข้มมากขึ้นตามกระแสรักสุขภาพ สีเข้มจากธรรมชาติช่วยต้านมะเร็ง ที่สำคัญยังต้องการแตงโมพันธุ์ที่ทนต่อสภาวะโลกร้อน แดดแรงมากขึ้นด้วย”

นายบุญมี ออกแมน รองกรรมการผู้จัดการ ธุรกิจเมล็ดพันธุ์ บริษัท เจียไต๋ จำกัด ผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์แตงโมส่งออกรายใหญ่ของไทย เผยถึงที่มาของแตงโมพันธุ์ใหม่ WM N0.12 ที่มีคุณสมบัติทนความร้อนแรงของแดดยุคโลกร้อน

ด้วยการนำแตงโมพันธุ์สหรัฐอเมริกามาปรับปรุงพันธุ์ใหม่...ผสมพันธุ์กับแตงโมป่าจากแอฟริกา ร่วม 40 สายพันธุ์ เพื่อให้ได้แตงโมพันธุ์ดีกว่าเก่า ที่ใช้เวลานานถึง 5 ปี

จนได้แตงโมที่มีเนื้อสีแดงเข้ม มีความหวาน 11-13 บริกซ์ ผลแก่จัดมีน้ำหนักมากถึง 18 กก. ทนโรคเหี่ยว

ที่สำคัญมีใบหนาดก ขึ้นเต็มไปหมด จนแทบไม่เห็นผลแตงโม...นั่นเพราะใบที่ขึ้นรกหนานี้ มีประโยชน์สำคัญ ช่วยคลุมบังแดด ไม่ให้แผดเผาผิวผลแตงโมจนเสียหาย สีผลเหลืองซีดขายไม่ได้ราคา ซึ่งเป็นที่ต้องการของลูกค้าต่างประเทศที่ต้องการพันธุ์แตงโมใบดกเพิ่มมากขึ้นตลอดเวลา

“ปัญหาแตงโมเจอแดดแรง ทำผลผลิตเสียหาย เมื่อก่อนนี้ปัญหาไม่ค่อยมาก เพิ่งจะมีเห็นเด่นชัดขึ้นในช่วง 10 ปีหลังมานี่เอง นับแต่ภาวะโลกร้อนแสดงอาการให้เห็นชัดเจน”

โจ วาเลนเซีย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท Bonanza seed จากสหรัฐอเมริกา บริษัทพันธมิตรคู่ค้าเมล็ดพันธุ์ของเจียไต๋ ให้เหตุผลถึงการเดินทางมาดูผลผลิตแตงโมพันธุ์ใหม่ เพื่อสั่งซื้อเมล็ดไปจำหน่ายในต่างประเทศ

โดยเฉพาะในพื้นที่ตะวันออกกลางและอเมริกาใต้ ที่เจอปัญหาโลกร้อน แดดแรงคุกคามหนัก มีความต้องการพันธุ์แตงโมนี้เป็นอย่างมาก...ส่วนบ้านเรา อาการความต้องการเช่นนี้ คงจะได้เห็นอีกไม่นาน

ที่มาของบทความและรูปภาพประกอบ: https://regional.kachon.com