นักวิจัยสหรัฐอเมริกา พบหอยแมลงภู่จำนวนมากบนชายฝั่งแคลิฟอร์เนีย เสียชีวิตจากอากาศที่ร้อนทะลุถึง 38 อาศาเซลเซียส หวั่นกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเล
เว็บไซต์ เดอะการ์เดียน รายงานว่า แจ็กกี้ โซเนส ผู้ประสานงานวิจัยทางทะเล สหรัฐอเมริกา พบหอยแมลงภู่จำนวนมากเสียชีวิตอยู่บนโขดหิน มีลักษณะเปลือกกำลังอ้างปากค้าง และไหม้เกรียมเหมือนถูกปรุงสุก ซึ่งไม่เคยพบเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน โดยเมื่อเดือนมิถุนายน ได้เกิดคลื่นความร้อนทำลายสถิติ จนไปทำลายหอยแมลงภู่ครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 15 ปี ที่เมืองโบเดกาเบย์ บริเวณยอดแหลมอ่าวแคลิฟอร์เนียตอนเหนือ
นอกจากนี้ ยังได้รับรายงานจากนักวิจัยคนอื่นเกี่ยวกับการตายของหอยแมลงภู่ในลักษณะเดียวกันที่ชายหาดหลายแห่ง เป็นระยะทาง 140 ไมล์ หรือ 225 กิโลเมตร ตลอดแนวชายฝั่งทะเล ในขณะที่ผู้คนกำลังเพลิดเพลินกับมหาสมุทรแปซิฟิกท่ามกลางอุณหภูมิ 80 ฟาเรนไฮ หรือประมาณ 27 องศาเซียลเซียส ซึ่งชายหาดถูกปกคลุมไปด้วยแสงอาทิตย์ รวมถึงที่พักอาศัยของหอยแมลงภู่ที่ถูกผูกติดอยู่กับโขดหิน อาจมีอุณภูมิสูงกว่า 100 ฟาเรนไฮ หรือประมาณ 38 องศาเซลเซียส
ทั้งนี้ ผู้ประสานงานวิจัยทางทะเล คาดการณ์ว่า การตายของหอยแหลงภู่จำนวนมากนี้ จะส่งผลต่อระบบนิเวศทั้งหมดของชายฝั่งทะเลบริเวณดังกล่าว
“หอยแมลงภู่ เป็นที่รู้จักในสายพันธุ์พื้นฐาน ซึ่งมีค่าเท่ากับต้นไม้ในป่า พวกเขาให้แหล่งพักพิงและถิ่นที่อยู่ของสัตว์มากมาย ดังนั้น เมื่อคุณส่งผลกระทบที่อยู่อาศัยหลักเหล่านั้น มันจะส่งผลไปทั่วทั้งหมดของระบบที่เหลือ” โซเนส กล่าว
ที่มาของข่าว: www.pptvhd36.com