เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) นางรวีวรรณ ภูริเดช กล่าวถึงความคืบหน้าการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทยให้ได้ร้อยละ 20-25 ภายในปี 2573 ตามที่ได้ประกาศไว้บนเวทีการประชุมภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 21 (COP 21) ที่ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ว่า ประเทศไทย สามารถลดก๊าซเรือนกระจกตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปี 2020 แสดงเจตนารมย์ลดให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 7-10 ในเบื้องต้นตัวเลขปี 2558 ลดได้แล้วร้อยละ 11 มาจากภาคพลังงานและขนส่ง ถือว่าสูงกว่าเป้าหมายขั้นต่ำที่กำหนด/p>

ส่วนปี 2030 ไทยตั้งเป้าการมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนดขึ้น (NDC)ตามความตกลงปารีส (Paris Agreement) ให้ได้ร้อยละ 20-25 ซึ่งจะเน้นเพิ่มสาขาที่มาช่วยลดก๊าซเรือนกระจกปีนี้ให้ได้ตามเป้าของประเทศ คือ กลุ่มขบวนการอุตสาหกรรม เช่น การผลิตปูนซีเมนต์ ที่กระบวนการผลิตใช้พลังงานมากและวัสดุก่อสร้างบางชนิดมีผลกระทบต่อการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศ โดยเฉพาะเม็ดปูน , การทำความเย็น ทั้งแอร์ ตู้เย็น ตู้แช่ และคอมเพรสเซอร์ ด้วยการขอความร่วมมือผู้ประกอบการใช้สารทำความเย็นที่มีค่าศักยภาพในการทำให้เกิดภาวะโลกร้อน (GWP) ต่ำที่สุดมาทดแทนสารเดิมที่เคยใช้ จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้

เลขาธิการ สผ.เตรียมหาแนวทางร่วมกับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเหล็กกล้า ปรับเปลี่ยนแนวทางกระบวนการผลิตให้ใช้พลังงานน้อยลงแล้วนำความร้อนที่ใช้กลับมาหมุนเวียนทำประโยชน์อย่างอื่นได้

ที่มาของบทความและรูปภาพประกอบ: http://www.nationtv.tv