facebook
icon telephoneCall Center02-141-9790
ค้นหา
icon switch languageภาษา
ขนาดตัวอักษร
การแสดงผล
icon line icon youtube icon tiktok
banner_list
  • 2259

‘วราวุธ’ แสดงจุดยืนไทยบนเวทีโลกร้อน ยืนยันพร้อมจับมือนานาชาติแก้ปัญหา

03 ม.ค. 63

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นหัวหน้านำคณะผู้แทนไทย รวมถึง นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นางรวีวรรณ ภูริเดช เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) นายพิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช รองเลขาธิการ สผ. และนางประเสริฐสุข เพฑูรย์สิทธิชัย ผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก เข้าร่วมการประชุมระดับผู้นำ และระดับรัฐมนตรี (High-level Segment) ของการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 25 (COP25) การประชุมรัฐภาคีพิธีสารเกียวโต สมัยที่ 15 (CMP 15) และการประชุมรัฐภาคีความตกลงปารีส สมัยที่ 2 (CMA 2)
 
การประชุมครั้งนี้ ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงมาดริด สเปน มีผู้แทนระดับสูงจากทุกประเทศเข้าร่วมกว่า 190 ประเทศ มีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดโอกาสให้รัฐมนตรีของประเทศต่างๆ แสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับทิศทางการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก และความคาดหวังในการประชุมครั้งนี้
 
นายวราวุธได้กล่าวถ้อยแถลงในนามประเทศไทย เพื่อแสดงจุดยืนในการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศ ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญและตระหนักถึงผลกระทบด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จึงได้มีการบูรณาการเรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งในวาระการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง
 
ในส่วนของการดำเนินงานนั้น เมื่อปี 2560 ไทยประสบความสำเร็จในการลดก๊าซเรือนกระจกได้ประมาณ 14% ในภาคพลังงานและขนส่ง หรือคิดเป็น 2 เท่าของเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกที่ไทยกำหนดไว้
 
นอกจากนี้ ไทยยังพยายามเสริมสร้างความเข้มแข็งของกลไกการดำเนินงานภายในประเทศ ด้วยการเพิ่มความสามารถของบุคลากรในประเทศ และกำหนดโครงสร้างที่จำเป็นในการดำเนินการ เพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ทั้งในด้านการลดก๊าซเรือนกระจก และการปรับตัวจากผลกระทบที่เกิดขึ้น เพื่อทำให้การดำเนินงานในประเทศสอดคล้อง และตอบโจทย์เป้าหมายความตกลงปารีส
 
ตัวอย่างการดำเนินงานที่สำคัญ อาทิ การจัดทำร่างกฎหมายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศฉบับแรกของประเทศ จัดทำยุทธศาสตร์ระยะยาวในการพัฒนาที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำ และการปรับปรุงระบบการเงินในประเทศ รวมถึง เสริมสร้างบทบาทของกองทุนสิ่งแวดล้อม ในการสนับสนุนทางการเงินแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคเอกชน เพื่อจัดทำโครงการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
 
ไทยยังมุ่งมั่นที่จะบูรณาการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกับประเด็นสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมอื่นๆ เช่น การอนุรักษ์ความหลายหลายทางชีวภาพ ลดมลสารช่วงชีวิตสั้นที่ส่งผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศ (Short-lived climate pollutants) และขยะทะเล
 
ในฐานะประธานหมุนเวียนอาเซียนในปีนี้ ไทยยังผลักดันบทบาทของอาเซียนในเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงการจัดทำถ้อยแถลงของอาเซียนสำหรับการประชุมสุดยอด United Nations Climate Action Summit ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถ้อยแถลงดังกล่าวในฐานะประธานอาเซียนในการประชุมเมื่อวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐ ทั้งยังจัดทำถ้อยแถลงของอาเซียนสำหรับการประชุม COP 25/CMA 15/CMA 2 ในครั้งนี้ด้วย
 
นายวราวุธย้ำว่า ประเทศไทยมีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินงานร่วมกับประเทศต่างๆ ให้บรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ ภายใต้กลไกความร่วมมือพหุภาคี
 
“โลกนี้ ไม่ใช่มรดกที่เราได้รับมาจากพ่อแม่ของเรา หรือจากบรรพบุรุษของเรา แต่เรายืมโลกนี้มาใช้จากลูก หลาน และเหลนของเรา ในโอกาสนี้ ประเทศไทยจึงแสดงความตั้งใจอย่างเต็มที่ ที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินงานเพื่อปกป้องภูมิอากาศสำหรับอนาคตของโลกและลูกหลานของเราทุกคน”
 
ที่มาของข่าว: www.thebangkokinsight.com