facebook
icon telephoneCall Center02-141-9790
ค้นหา
icon switch languageภาษา
ขนาดตัวอักษร
การแสดงผล
icon line icon youtube icon tiktok
banner_list
  • [image_name]
  • [image_name]
  • [image_name]

ปลูกป่า 152 ล้านต้นกล้า ฟื้นฟูป่าภาคเหนือ เผยถูกไฟเผาเสียหายกว่า 16 ล้านไร่

21 พ.ค. 63

"ประวิตร-วราวุธ" นำปลูกป่า 152 ล้านต้นกล้า ฟื้นฟูป่าภาคเหนือ นำร่องเชียงใหม่ เผยไฟเผาเสียหายกว่า 16 ล้านไร่ มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ รมว.ทส.แฉเหตุเผา ล่าสัตว์ กับเผาไร่ ที่สำคัญ จนท.ขัดแย้งกันเอง ด้าน ปลัดทส. ผุดแอปพลิเคชั่น ติดตามการเติบโตต้นไม้ที่ปลูก ลบคำครหาประชาชน ปลูกแล้วป่าไปไหน

เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ตั้งแต่ช่วงเช้า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมผู้บริหารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) นำโดย นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส. นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดทส. เปิดโครงการรวมใจไทย ปลูกต้นไม้ เพื่อฟื้นฟูป่า และเพื่อพื้นที่สีเขียว

โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดในจังหวัดภาคเหนือ 9 จังหวัด เข้าร่วม บริเวณป่าดอยสุเทพ บ้านศาลา(ห้วยตึงเฒ่า) หมู่ที่ 3 ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เนื้อที่รวม 210 ไร่ ซึ่งเป็นบริเวณที่ได้รับความเสียหายจากไฟป่า ช่วงเดือนมกราคม-มีนาคมที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน ก็มีหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชน ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ร่วมปลูกปลูกพร้อมกันทั้ง 25 อำเภอในเวลาเดียวกัน

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายปลูกฟื้นฟูสภาพป่า เพื่อให้เป็นไปตามพระบรมราโชบาย ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.9 และ ร.10 เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว และสนับสนุนให้ประชาชนได้มีการปลูกไม้ยืนต้นในพื้นที่ตนเอง เพราะรัฐบาลมีนโยบาย ในการปลูกต้นไม่มีค่า ที่สามารถนำไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันในอนาคต และเป็นสมบัติให้กับครอบครัวได้

นายวราวุธ กล่าวว่า สถานการณ์ไฟป่าปี 2563 รุนแรงมาก มีพื้นที่ป่าไม้ได้รับความเสียหายจำนวน มากกว่า 16 ล้านไร่ ทั้งในป่าสงวน และป่าอนุรักษ์ ทส.จึงเตรียมกล้าไม้ 152 ล้านกล้า ปลูกในพื้นที่ภาคเหนือทั้งหมด และทั่วประเทศ เช่น ภาคเหนือ 33,500 ต้น แบ่งเป็น เชียงใหม่ 10,000 ต้น ลำปาง 10,000 ต้น ตาก 5,000 ต้น แม่ฮ่องสอน 3,000 ต้น ลำพูน เชียงราย น่าน จังหวัดละ 1,000 ต้น เป็นต้น และจะปลูกในอีก 22 จังหวัด ทั่วประเทศอีก 49,000 ไร่ นอกจากนี้ได้ดึง 802 หมู่บ้าน ทั่วประเทศ มาเป็นเครือข่ายในการฟื้นฟูป่า

โดยนายวราวุธ กล่าวว่า ทส. ได้สรุปบทเรียนถึงสาเหตุ ปัญหา อุปสรรคของไฟป่าที่เกิดขึ้น พบว่าสาเหตุส่วนใหญ่ เกิดจากการเผาเพื่อล่าสัตว์ และเผ่าไร่ในป่า ในพื้นที่ตัวเอง และควบคุมไม่ได้ จนลามเข้าสู่ป่าอนุรักษ์ ซึ่งปีนี้ ดอยสุเทพเสียหายที่สุดเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้ยังมีปัญหาความขัดแย้งระหวางเจ้าหน้าที่กับเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่กับประชาชน และประชาชานกับประชาชน จนเกิดการเผาป่า นอกจากนี้ประชาชนยังรู้สึกไม่มีส่วนร่วมในการดูแลรักษาป่า ขณะที่อุปกรณ์ป้องกันไฟป่าก็ไม่ทันสมัย ทั้งเฮลิคอปเตอร์ โดรน การรายงานจุดความร้อนไม่ทันกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การแก้ปัญหาไฟป่าที่ผ่านมาขอให้เป็นบทเรียน จากนี้ไป การป้องกันแก้ปัญหาไฟป่าจะต้องมีอย่างต่อเนื่องเรื่องเป็นรูปธรรม ให้มีการจัดชุดพิทักษ์ป่าประจำหมู่บ้านในหมู่บ้านเสี่ยง ในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนื่อ เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาป่า จัดหาอุปกรณ์ที่มีเทคโนโลยีทันสมัย และเครื่องมือการดับไฟป่าที่เพียงพอ ให้ผู้ว่าราขการจังหวัดเป็นผู้รับผิดชอบหลัก ที่สำคัญหัวใจการดับไฟป่าจะต้องดึงประชาชน มาเป็นแนวร่วม