วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ TGO โดย นายเกียรติชาย ไมตรีวงษ์ ผู้อำนวยการ TGO กล่าวความสำคัญของ Carbon Neutral Event ภายในงานแถลงข่าวการจัดกิจกรรม “Thailand Mobile Expo 2023” ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 16-19 ก.พ. 66 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในรูปแบบ Carbon Neutral Event พร้อมทั้งร่วมเป็นสักขีพยานความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง บริษัท เวฟ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ WAVE โดย นายเจมส์ แอนดริว มอร์ ประธานกรรมการ บริษัท เวฟบีซีจี จำกัด ร่วมลงนามความร่วมมือกับ บริษัท เอ็มวิชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MVP โดย นายโอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MVP โดยมีวิทยาลัยพลังงานและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนรัตนโกสินทร์ เป็นที่ปรึกษาให้กับ WAVE และ MVP ในการเก็บรวบรวมข้อมูลและคำนวณปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการจัดงาน พร้อมทั้งชดเชยการปล่อยทั้งหมดสุทธิเป็นศูนย์ สำหรับการจัดงานหรือ Event ในประเทศ ทั้งในรูปแบบงานแสดงสินค้า งานเอ็กซ์โปและคอนเสิร์ต ให้มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) เพื่อส่งเสริมการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและลดปัญหาภาวะโลกร้อนอย่างยั่งยืน ทั้งนี้มีผู้บริหารและเจ้าหน้าที่จาก TGO WAVE และ MVP รวมทั้งสื่อมวลชน เข้าร่วม ณ บริษัท เวฟ บีซีจี จำกัด อาคารธารารมณ์ บิสซิเนส ทาวเวอร์ กรุงเทพฯ
นายเกียรติชาย ไมตรีวงศ์ ผู้อำนวยการ TGO กล่าวว่า TGO ได้ให้การสนับสนุนการจัดอีเว้นท์ในครั้งนี้ ให้มีการดำเนินการในรูปแบบที่เป็น Carbon Neutral Event โดยมีการพัฒนาแพลตฟอร์มการคำนวณขึ้นใหม่ มุ่งเน้นให้ใช้งานได้ง่าย แยกตามประเภทของ MICE คือ
ทั้งนี้ในต่างประเทศมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดงานต่างๆ ให้มีความเป็นกลางทางคาร์บอนมากขึ้นทั้งผู้จัดจากต่างประเทศ งานเทศกาลดนตรี งานคอนเสิร์ต เริ่มมีมาตรการให้ผู้เข้าร่วมงานปฏิบัติตาม อีกทั้งศิลปินบางวงยังมีการเลือกงานที่จะไปทำการแสดง ที่ต้องเป็นงานจัดในรูปแบบของ Carbon Neutral เท่านั้น
โดยอีกหนทางหนึ่งที่ทำให้การจัดงานกิจกรรมต่างๆ สามารถเดินสู่เป้าหมายความเป็นการทางคาร์บอนก็คือ การซื้อคาร์บอนเครดิตมาชดเชยปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากกิจกรรมต่างๆ ขององค์กร หรือ ผลิตภัณฑ์ เพื่อทำให้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากองค์กร หรือ ผลิตภัณฑ์นับได้เท่ากับศูนย์ หรือ ที่เรียกว่า Carbon Neutral