วันที่ 15 มีนาคม 2565 องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ TGO โดย นายเกียรติชาย ไมตรีวงษ์ ผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก ร่วมเป็นวิทยกรบรรยายให้ความรู้ในงานเสวนา “Role of Private Sector in the Country’s Environmental Management” ภายใต้การประชุมวิชาการนานาชาติ The 3^rd International Conference on Environment, Livelihood and Services (ICELS 2022) ซึ่งจัดโดย องค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (TBCSD) และสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (TEI) เพื่อให้หน่วยงานและองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการดำเนินงานที่ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน รวมถึง บทบาทขององค์กรภาคธุรกิจไทยในการร่วมแก้ไขปัญหาสำคัญของประเทศ (Country Issue) ด้านสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศ รวมทั้งมีความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทองค์กรภาคธุรกิจไทยในการยกระดับมาตรฐานขององค์กรสู่การเป็นธุรกิจคาร์บอนต่ำและยั่งยืนในอนาคต โดยมี ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย เลขาธิการองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน และประธานกรรมการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก กล่าวต้อนรับและความเป็นมาของการจัดงานเสวนาฯ ทั้งนี้มีผู้แทนจากองค์กรสมาชิก TBCSD และ ผู้ที่สนใจเข้าร่วม ผ่านทางระบบประชุมทางไกล (Video Conference) และถ่ายทอดสดผ่านทาง Facebook Live Streaming สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย - TEI

             ภายในงานนี้ นายเกียรติชาย ไมตรีวงษ์ ผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก ได้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับ Global Climate Action at COP 26 และ Thailand Climate Action เพื่อมุ่งสู่ต้นแบบธุรกิจคาร์บอนต่ำและยั่งยืน (Low Carbon and Sustainable Business) โดยกล่าวว่า “บทบาทสำคัญของภาคเอกชนในการขับเคลื่อนสู่ Net Zero Emissions ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญจากผลการประชุม COP 26 และเป็นนโยบายสำคัญของประเทศไทยตามที่นายกรัฐมนตรี (พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา) ได้กล่าวถ้อยแถลง ณ การประชุม COP 26 โดยการบรรลุเป้าหมายดังกล่าวจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในทุกสาขาเศรษฐกิจ TGO ได้ร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ในการสนับสนุนธุรกิจและองค์กรต่างๆ ในการเสริมสร้างศักยภาพเพื่อลดก๊าซเรือนกระจกและกำหนดเป้าหมาย Net Zero Emissions ผ่านกลไก เครื่องมือ และนวัตกรรมต่างๆ ตลอดจนได้จัดตั้งเครือข่าย Thailand Carbon Neutral Network (TCNN) ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกมากกว่า 200 องค์กร”