facebook
icon telephoneCall Center02-141-9790
ค้นหา
icon switch languageภาษา
ขนาดตัวอักษร
การแสดงผล
icon line icon youtube icon tiktok
banner_list
  • 652

2 เจ้าหญิงทรงตระหนักภาวะโลกร้อน

27 ส.ค. 58

“เจ้าหญิงเมตเต-มาริต” มกุฎราชกุมารีแห่งนอร์เวย์ ทรงต้อนรับ “เจ้าหญิงวิกตอเรีย” มกุฎราชกุมารีแห่งสวีเดน ในการเสด็จเข้าร่วมรณรงค์ลดปัญหาภาวะโลกร้อน และความอันตรายของไคลเมท เชนจ์“

ทรงเห็นความสำคัญของปัญหาโลกร้อน และอุณหภูมิของโลกที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งปัญหาดังกล่าวต้องได้รับการเอาใจใส่อย่างจริงจัง “เจ้าหญิงเมตเต-มาริต”มกุฎราชกุมารีแห่งนอร์เวย์ ทรงต้อนรับ “เจ้าหญิงวิกตอเรีย” มกุฎราชกุมารีแห่งสวีเดน ในการเสด็จเข้าร่วมรณรงค์ลดปัญหาภาวะโลกร้อน และความอันตรายของไคลเมท เชนจ์ ซึ่งองค์การสหประชาชาตินำมาเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องได้รับการแก้ไขเป็นสำคัญในเรื่องเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม โดยเสด็จไปยังเขตป่าไม้บริเวณชายแดนติดต่อระหว่างสองประเทศ ณ เมืองฮาลเดน ประเทศนอร์เวย์

ทั้งสองพระองค์อยู่ในฉลองพระองค์ลำลอง โดยเจ้าหญิงวิกตอเรียฉลองพระองค์สีขาว พระสนับเพลา (กางเกง) สีกากี ฉลองพระบาทผ้าใบสีขาว และพระมาลาทรงปานามา ด้านเจ้าหญิงเมตเต-มาริต ฉลองพระองค์สีขาวผ้าคอตตอน พระสนับเพลาสีครีม และฉลองพระบาทไนกี้สีสะท้อนแสง ทรงพระดำเนินไปรอบ ๆ เขตป่าในเมืองฮาลเดนที่มีความสวยงามเขียวชอุ่ม ซึ่งได้รับการร่วมมือดูแลจากคริสตจักรในเมืองสตรอมสตัด ประเทศสวีเดน กิจกรรมอีกส่วนหนึ่งของการรณรงค์ไปทั่วโลกขององค์การสหประชาชาติที่ให้ชุมชนช่วยดูแลป่าไม้ จากนั้นเสด็จยังสะพานไม้ข้ามลำธารซึ่งเป็นจุดไฮไลต์สำคัญที่ เจ้าหญิงเมตเต-มาริต ทรงนำขวดไปใส่น้ำจากลำธารที่ตัดผ่านเขตแดนทั้งสองประเทศ ทรงส่งมอบเป็นของขวัญให้แด่เจ้าหญิงวิกตอเรีย เพื่อเป็นตัวแทนให้ตระหนักถึงความขาดแคลนน้ำในอีกหลายภูมิภาคหลายประเทศทั่วโลก

จากนั้นเสด็จไปยังโบสถ์ในเมืองสตรอมสตัด โดยเจ้าหญิงวิกตอเรียทรงเปลี่ยนฉลองพระองค์ในชุดเดรสลายพรินท์ชนเผ่าสีดำแดงเปิดไหล่ ส่วนเจ้าหญิงเมตเต-มาริต ฉลองพระองค์เดรสสีฟ้าขาวลายดอกข้าวโพด เสริมกิมมิคให้สวยหวานด้วยลายสีขาวจากการถักโครเชต์ จากแบรนด์ซิมเมอร์มานน์ ระหว่างทางมีประชาชนเฝ้ารับเสด็จเป็นจำนวนมาก และเมื่อเสด็จเข้าไปภายในโบสถ์ทรงร่วมรดน้ำต้นไม้ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการสนับสนุนในการรณรงค์ และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทรงได้เห็นถึงความร่วมมือร่วมใจของประชาชนในการต่อต้านภาวะโลกร้อนอย่างจริงจัง.


ที่มาของบทความและรูปภาพประกอบ: http://www.dailynews.co.th