facebook
icon telephoneCall Center02-141-9790
ค้นหา
icon switch languageภาษา
ขนาดตัวอักษร
การแสดงผล
icon line icon youtube icon tiktok
banner_list
  • [image_name]
  • [image_name]
  • [image_name]
  • [image_name]
  • [image_name]
  • [image_name]

Festival Images Vevey” ภาพถ่ายเล่าเรื่องอนาคตมัลดีฟส์จมอยู่ใต้บาดาลเพราะโลกร้อน

20 ส.ค. 63

ความงดงามของท้องทะเลและมนต์ขลังของธรรมชาติในหมู่เ กาะมัลดีฟส์ อาจจะอยู่ให้เราได้ชื่นชมอีกไม่นาน เพราะอุณหภูมิโลกที่เพิ่มสูงขึ้นจากสภาวะการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศส่งผลให้แผ่นน้ำแข็งทางขั้วโลกละลายมากขึ้น ทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นั่นหมายความว่า มัลดีฟส์ก็อาจจะจมลงอยู่ใต้น้ำได้ภายในปี 2100 !!!

               หลายคนคงอาจจะเคยไปสัมผัสความงดงามของท้องทะเลและมนต์ขลังของธรรมชาติในหมู่เกาะมัลดีฟส์ซึ่งถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกใฝ่ฝัน แต่ข่าวร้ายคือความสวยงามนั้นอาจจะอยู่ให้เราได้ชื่นชมอีกไม่นาน เพราะอุณหภูมิโลกที่เพิ่มสูงขึ้นจากสภาวะการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศส่งผลให้แผ่นน้ำแข็งทางขั้วโลกละลายมากขึ้น และนับเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

               และนั่นก็หมายความว่าหมู่เกาะอันงดงามซึ่งเป็นที่ใฝ่ฝันของหลายๆคนอย่าง มัลดีฟส์ก็อาจจะจมลงอยู่ใต้น้ำได้ภายในปี 2100

               ด้วยเหตุดังกล่าวจึงเป็นที่มาของการจัดแสดงนิทรรศการของช่างภาพชาวอิตาลี นามว่า Giulia Piermartiri และ Edoardo Delille ที่สะท้อนความคิดและฉายภาพอนาคตชีวิตความเป็นอยู่ใต้น้ำของคนมัลดีฟส์ในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้านี้ให้เราได้ตระหนักถึงผลกระทบที่รุนแรงของภาวะโลกร้อน ซึ่งนิทรรศการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงภาพถ่าย “Festival Images Vevey”

♥อนาคตของหมู่เกาะมัลดีฟส์จะเป็นอย่างไรก็ตาม Hassan และ Malham เพื่อนรักตั้งแต่เด็กก็จะยังคงมีความฝันที่จะเปิดร้านอาหารร่วมกันอยู่

 

♥“สามีฉันสร้างบ้านหลังนี้ด้วยมือของเขาเพื่อครอบครัวของเรา ความคิดที่ว่าวันหนึ่งลูกของเราอาจจะจากบ้านไปสู่ท้องทะเลนั้นมันเป็นเหมือนความฝันของชีวิตที่แตกสลาย” Jeeza วัย 32 กล่าว

♥หนุ่มน้อยกับการขี่จักรยานของเขา บนเกาะ Villingili มีเพียง 2 อย่างเท่านั้นที่อนุญาตให้ใช้ได้ คือ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าและจักรยาน ในปีที่ผ่านมา หลายเกาะได้สั่งห้ามการใช้รถยนต์

 

♥ครอบครัวของ Hamid ที่อาศัยอยู่บนเกาะ Villingili และเขาได้เปิดบริษัทรับเหมาก่อสร้างของตัวเองในกรุง Male หลังจากที่เป็นลูกจ้างมา 14 ปี Hamid กล่าวว่า “เพื่ออนาคตของลูกๆ เราต้องเปลี่ยนแปลงนิสัยและใช้ชีวิตในทางที่ยั่งยืนมากขึ้น”

ที่มา SDThailand