SPCG บุกภาคเหนือ จับมือโฮมโปรชวนคนเชียงใหม่ติดตั้งโซลาร์รูฟ เปลี่ยนหลังคาบ้านเป็นเครื่องผลิตเงิน ช่วยประหยัดเงินในกระเป๋า แถมยังช่วยชาติมั่นคงพลังงานและช่วยลดโลกร้อน ด้าน “ซีอีโอเอสพีซีจี” ชูไทยเป็นโมเดลโลกผู้นำด้านการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ผลิตเป็นกระแสไฟฟ้า เนื่องจากอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรมากที่สุด
ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ จังหวัดเชียงใหม่ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ SPCG และ บริษัท โซลาร์ เพาเวอร์ รูฟ จำกัด หรือ เอสพีอาร์ ร่วมกับ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ โฮมโปร จัดงานเสวนา “ลดรายจ่าย ฝ่าวิกฤติกับ โซลาร์ รูฟ” เพื่อให้ความรู้กับประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ เรื่องระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายไฟฟ้าภายในบ้าน ซึ่งการจัดงานเสวนาครั้งนี้ถือว่า เป็นการออกสัญจรในต่างจังหวัดขึ้นเป็นครั้งแรกและได้รับความสนใจจากชาวเชียงใหม่เป็นอย่างดี โดยมีผู้เข้าร่วมเสวนาจำนวนมาก โดยมี น.ส.สร้อยฟ้า โอสุคนธ์ทิพย์ เป็นผู้ดำเนินรายการ
ดร.วันดี เล่าว่า หลังจากเกษียณอายุตัวเองเมื่อปี 2550 ได้กลับมาทำงานอีกครั้งในปี 2552 โดยเริ่มต้นที่ธุรกิจพลังงานหมุนเวียน ซึ่งเป็นช่วงที่รัฐบาลได้ประกาศรับซื้อไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จากภาคเอกชนเป็นครั้งแรกในประเทศไทยและในอาเซียน ช่วงแรกที่รัฐบาลประกาศพบว่า ไม่ค่อยได้รับความสนใจ จึงได้ทำการศึกษาอย่างหนักจนเชื่อมั่นว่า สามารถพัฒนาพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ในเชิงพาณิชย์ได้ จึงขอยื่นขายไฟกับทางการ ได้มาทั้งหมด 36 โครงการ มูลค่าลงทุนโครงการแรก ประมาณ 700 ล้านบาท โดยเริ่มพัฒนาในปี 2553 ได้รับเงินกู้ จากธนาคารกสิกรไทย ให้กู้ 60% ใช้เวลาร่วม 1 ปีจนสำเร็จ ก็เริ่มทำที่ต่อไป โดยตั้งเป็นบริษัทๆ ขึ้นมาดูแลแต่ละโครงการ
อย่างไรก็ตามเมื่อทำโครงการแรกสำเร็จ ธนาคารก็มั่นใจในธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์และเชื่อมั่นว่าจะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน จึงกล้าตัดสินใจเพิ่มสัดส่วนเงินกู้ขึ้นให้เป็น 75% และได้ดอกเบี้ยที่ถูกลง สำหรับโครงการที่เหลืออีก 35 แห่ง ประกอบกับรัฐบาลได้สนับสนุนการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์มากขึ้น จากที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยมีนโยบายกำหนดกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์มากถึง 6,000 MW
“พลังงานแสงอาทิตย์ในไทยเมื่อเทียบกับภูมิภาคทั่วโลกแล้วถือว่าเป็นพลังงานที่เหมาะสมที่สุด เพราะอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรที่เหมาะกับการนำมาพัฒนาผลิตไฟฟ้าเป็นอย่างมาก เนื่องจากตลอดทั้งวันมีความเข้มแสงเฉลี่ยสูงสุดถึง 5 ชั่วโมง และในจังหวัดเชียงใหม่ ก็ถือว่าตั้งอยู่ในภูมิภาคที่เหมาะสม สามารถใช้ประโยชน์จากพลังงานแสงอาทิตย์ได้อย่างเต็มที่”
ดร.วันดี กล่าวว่า หลังจากพัฒนาโครงการสำเร็จทั้ง 36 แห่ง มีกำลังการผลิตรวม 260 MW จึงนำบริษัท เอสพีซีจี ไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายใต้หมวดพลังงาน และเมื่อประสบความสำเร็จก็มีแผนขยายการลงทุนโซลาร์ฟาร์มไปต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ และกำลังพิจารณา ที่พม่า และอีกหลายประเทศในแถบภูมิภาคนี้เพราะเชื่อว่าธุรกิจพลังงานทดแทนนี้จะกลายเป็นกระแสการลงทุนที่ได้รับนิยมมากในอนาคต เพราะเป็นธุรกิจที่ช่วยลดโลกร้อน โดยการดำเนินงานที่ผ่านมาบริษัทฯ สามารถช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์กว่า 210,000 ตันต่อปี
อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นได้ต่อยอดความสำเร็จของธุรกิจมาสู่ ระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งบนหลังคา ภายใต้ชื่อ บริษัท โซลาร์ เพาเวอร์ รูฟ จำกัด หรือเอสพีอาร์ โดยใช้แผงเซลล์แสงอาทิตย์ อินเวอเตอร์ อุปกรณ์ เครื่องมือ ต่างๆ แบบเดียวที่ใช้ในโซลาร์ฟาร์ม เพื่อการันตีในมาตรฐานอุปกรณ์ต่างๆ ว่ามีคุณภาพจากการใช้งานจริงของบริษัท ซึ่งขณะนี้โซลาร์รูฟของเอสพีอาร์ ได้รับการยอมรับจากเจ้าของบ้านในกรุงเทพกว่า 500 หลังคาเรือน
ทั้งนี้บริษัทฯ ได้เลือกใช้แผงเซลล์แสงอาทิตย์จาก Kyocera ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความมั่นคงทางการเงินสูง มีประสบการณ์ในการผลิตแผงเซลล์แสงอาทิตย์ถึง 35 ปี รับประกันตัวแผงยาวนานถึง 25 ปี และหลังจากปีที่ 25 ยังสามารถผลิตไฟฟ้าได้ถึง 80% ลูกค้าจึงเชื่อมั่นได้ว่า แผงมีอายุนานมากกว่าที่รับประกัน โดยที่ญี่ปุ่น Kyocera ได้นำแผงโซลาร์เซลล์มาใช้ภาคสนาม ปรากฏว่าแผงยังมีประสิทธิภาพการใช้งานที่ดี ทั้งที่ใช้งานนานเกินกว่า 35 ปี แต่ค่าพลังงานลดลงเฉลี่ยแค่ 8.6% ส่วน อินเวอเตอร์ บริษัทฯ เลือกใช้ของ SMA จากประเทศเยอรมนี รับประกันถึง 5 ปี เพราะบริษัทตระหนักถึงความสำคัญในคุณภาพของผลิตภัณฑ์และความปลอดภัยในการใช้งาน และสามารถคืนทุนให้กับลูกค้าได้ในช่วง 8-9 ปี หลังการติดตั้ง
ดร.วันดี กล่าวกล่าวถึงประโยชน์และข้อดี ในการติดตั้ง โซลาร์รูฟ ว่า สามารถผลิตไฟใช้เองได้ ทำให้ช่วยลดค่าใช้จ่ายไฟฟ้าภายในบ้านได้เป็นอย่างดี และบริษัทฯ ได้แต่งตั้งบริษัท โฮมโปรดักซ์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์โซลาร์รูฟ ด้านตลาดที่อยู่อาศัย ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชน
ทั้งนี้การออกสัญจรในต่างจังหวัดของบริษัทเอสพีซีจีฯ ครั้งนี้ได้ร่วมออกบูธแสดงสินค้า ภายใต้แบรนด์ SPR Solar Roof ระหว่างวันที่ 16-25 ธันวาคม 2559 ภายในงาน โฮมโปรแฟร์ จังหวัดเชียงใหม่ โดยจัดแสดงนวัตกรรมแผงเซลล์แสงอาทิตย์ ภายใต้แบรนด์ Kyocera จากประเทศญี่ปุ่นInverter SMA และระบบ HEMS ซึ่ง Solar Roof ของบริษัทมีให้เลือก 4 ขนาด ได้แก่ S, M, L และ XL ตามปริมาณการใช้ไฟฟ้าของบ้านลูกค้าแต่ละราย มีผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมชมบูธเป็นจำนวนมาก
ที่มาของบทความและรูปภาพประกอบ : http://www.banmuang.co.th