ป่าไม้ เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีบทบาทสำคัญในการช่วยชะลอการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกและช่วยให้สามารถบรรลุเป้าหมาย Net Zero Emissions และ Climate Neutrality โดยป่าไม้จะทำหน้าที่ดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ผ่านกระบวนการสังเคราะห์แสงและเปลี่ยนเป็นคาร์บอนที่กักเก็บอยู่ในเนื้อไม้ TGO ให้ความสำคัญและสนับสนุนการลดก๊าซเรือนกระจกในประเทศไทย ผ่านโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย หรือ T-VER โดยโครงการ T-VER ที่เกี่ยวข้องกับป่าไม้ มี 2 ประเภท คือ การปลูกป่า/ต้นไม้ และการอนุรักษ์/ฟื้นฟูป่า
TGO ร่วมกับหน่วยงานภายใต้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ผลักดันให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการลดก๊าซเรือนกระจกภาคป่าไม้และพื้นที่สีเขียว โดยกำหนดนโยบายและมีประกาศที่เกี่ยวข้องดังนี้
- สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (2564) กำหนดนโยบายเพิ่มพื้นที่ป่าไม้และพื้นที่สีเขียวให้ได้ประมาณ 30 ล้านไร่ภายในปี 2037 และรักษาพื้นที่ป่าให้คงอยู่ราว 148 ล้านไร่ ในพื้นที่ป่าธรรมชาติ ป่าเศรษฐกิจ และพื้นที่สีเขียวในเขตเมืองและชนบท ซึ่งจะมีศักยภาพการดูดกลับก๊าซเรือนกระจกสุทธิราว 120 MtCO2eq
- กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 22 เม.ย. 2564) ประกาศระเบียบกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ว่าด้วยการปลูกและบำรุงป่าชายเลนสำหรับองค์กรหรือบุคคลภายนอก พ.ศ. 2564 ข้อ 23 กรณีการแบ่งปันคาร์บอนเครดิตโครงการ ให้กำหนดในสัดส่วนร้อยละ 90 สำหรับองค์กรหรือบุคคลภายนอกที่เข้าร่วมโครงการ และร้อยละ 10 สำหรับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งหรือตามที่ตกลงกัน โดยจะต้องกำหนดสัดส่วนสำหรับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ไม่น้อยกว่าร้อยละ 10
Download: ระเบียบกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ว่าด้วยการปลูกและบำรุงป่าชายเลนสำหรับองค์กรหรือบุคคลภายนอก พ.ศ. 2564: https://www.dmcr.go.th/detailAll/50516/nws/1
- กรมป่าไม้ (มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 10 ส.ค. 2564) ประกาศระเบียบกรมป่าไม้ ว่าด้วยการแบ่งปันคาร์บอนเครดิตจากการปลูก บำรุง อนุรักษ์ และฟื้นฟูป่าในพื้นที่ป่าไม้ พ.ศ. 2564 ข้อ 11 กำหนดสัดส่วนการแบ่งปันคาร์บอนเครดิต ดังนี้(1) ผู้ยื่นคำขอที่ได้รับอนุมัติ ตามข้อ 5(1) การกำหนดสัดส่วน ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการกำหนด ทั้งนี้ สัดส่วนของกรมป่าไม้ต้องไม่น้อยกว่าร้อยละสิบ(2) ผู้ยื่นคำขอที่ได้รับอนุญาตหรืออนุมัติตามข้อ 5(2) และ (3) กำหนดสัดส่วนร้อยละเก้าสิบ สำหรับผู้ยื่นคำขอ และร้อยละสิบสำหรับกรมป่าไม้โดย ข้อ 5(1) ผู้ได้รับอนุมัติให้เข้าร่วมกิจกรรมของกรมป่าไม้ ซึ่งดำเนินการตามมาตรา 19 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 ข้อ 5(2) ผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าไม้ (ก) มาตรา 45 แห่งพระราชบัญญัติกรมป่าไม้ พุทธศักราช 2484 (ข) มาตรา 13/1 มาตรา 16 และมาตรา 20แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 ข้อ 5(3) ผู้ได้รับอนุมัติให้ใช้ประโยชน์พื้นที่สวนป่าของกรมป่าไม้ตามมติคณะรัฐมนตรี
Download:
ระเบียบกรมป่าไม้ ว่าด้วยการแบ่งปันคาร์บอนเครดิตจากการปลูก บำรุง อนุรักษ์ และฟื้นฟูป่าในพื้นที่ป่าไม้ พ.ศ. 2564
นอกจากป่าไม้จะมีส่วนช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแล้ว การบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้ยังมีส่วนช่วยให้การพัฒนาอย่างยั่งยืนสัมฤทธิ์ผลภายใต้การสร้างความสมดุลระหว่างมิติทางด้านเศรษฐกิจ เกิดการสร้างรายได้จากการซื้อขายคาร์บอน รายได้จากการเป็นแหล่งท่องเที่ยวในชุมชน ด้านสังคม ช่วยให้เกิดการมีส่วนร่วม ความสามัคคีในการดำเนินกิจกรรมการจัดการป่าไม้ และด้านสิ่งแวดล้อม เป็นการรักษาแหล่งต้นน้ำ บรรเทาระดับความรุนแรงจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ ช่วยเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพในระบบนิเวศ รวมถึงช่วยลดมลพิษสร้างคุณภาพสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังเป็นทรัพยากรสำคัญในการรองรับและลดผลกระทบที่เกิดจากการภาวะโลกรวนอีกด้วย