วันที่ 14-17 กันยายน 2568 องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ TGO จัดการประชุมหารือความร่วมมือและศึกษาดูงาน “Carbon Pricing & Climate Technology for Net Zero” เพื่อแลกเปลี่ยนแนวคิดเชิงนโยบายและการดำเนินงานในการปรับใช้กลไกราคาคาร์บอนของประเทศเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) โดยมี ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ประธานกรรมการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก พร้อมด้วย คณะกรรมการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก รวมทั้ง ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ TGO เข้าร่วม ณ เมืองโอซาก้า และเมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

                       ในการนี้ TGO ได้ประชุมหารือความร่วมมือและศึกษาดูงาน จำนวนทั้งสิ้น 5 แห่ง ได้แก่

                       World Expo 2025 Osaka Kansai มีการนำเสนอภายใต้แนวคิดหลัก “Designing Future Society for Our Live (การออกแบบสังคมแห่งอนาคตเพื่อชีวิตเรา)” มุ่งเน้นการใช้ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมเพื่อร่วมออกแบบสังคมแห่งอนาคตที่ช่วยให้ชีวิตของทุกคนดีขึ้นอย่างมีความสุขและสุขภาพดี โดยครอบคลุมประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่ของมนุษย์ทั้งในปัจจุบันและอนาคต รวมทั้งการคำนึงถึงความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และความยั่งยืน

                       กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม (METI) ประเทศญี่ปุ่น ในประเด็นเกี่ยวกับ กลไกราคาคาร์บอนภายใต้ Green Transformation (GX) ที่เน้นย้ำถึงความสำคัญของ Climate Finance ซึ่งภาครัฐมีส่วนสนับสนุนหลักผ่านการออกพันธบัตรรัฐบาล (Bond) เพื่อส่งเสริมการลงทุนสีเขียวของภาคเอกชน เช่น ไฮโดรเจน และ Carbon Capture and Storage (CCS) เป็นต้น ซึ่งส่งผลให้เกิดการลดก๊าซเรือนกระจกมากยิ่งขึ้น โดยปัจจุบันนี้การดำเนินการดังกล่าวเป็นภาคสมัครใจ ซึ่งจะมีการเปลี่ยนผ่านไปสู่การบังคับเต็มรูปแบบต่อไปภายในปี 2028

                       สถาบันยุทธศาสตร์สิ่งแวดล้อมโลก (IGES) สาขากรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในประเด็นเกี่ยวกับ ภารกิจการทำงานที่สำคัญของ IGES ทั้ง 2 ด้าน ได้แก่ ด้าน Policy Research ที่ศึกษาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทั้ง Market mechanism และ Non-market mechanism และภารกิจด้าน Stakeholder Engagement ที่ผลักดันให้เกิดความร่วมมือทั้งภาคประชาชนและภาคเอกชนในการดำเนินการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมถึงการจัดตั้งศูนย์ Article 6 Implementation Partnership (A6IP) เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนด้านเทคนิค องค์ความรู้ รวมถึงการช่วยพัฒนาแนวทางปฏิบัติที่โปร่งใสและมีประสิทธิภาพให้กับประเทศที่สนใจ เพื่อเตรียมความพร้อมและดำเนินการภายใต้ความตกลงปารีสข้อ 6.2 (Article 6.2) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

                       กระทรวงสิ่งแวดล้อมของญี่ปุ่น (MOEJ) ในประเด็นเกี่ยวกับ กรอบแนวคิด High-Integrity ASEAN Carbon Initiative (HACI) ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญที่จะผลักดันให้มาตรฐานคาร์บอนเครดิต Premium T-VER ของประเทศไทยให้เป็นที่ยอมรับในภูมิภาคอาเซียน นอกจากนี้มีเป้าหมายที่สำคัญด้านนโยบายผลักดันมาตรฐานกลางของอาเซียน การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างประเทศ การลงทุนและการเข้าถึงแหล่งเงินทุน รวมถึงการขยายตลาดของอาเซียนสู่ระดับโลกต่อไป นอกจากนี้ยังได้หารือเกี่ยวกับ แผนการดำเนินงานของประเทศญี่ปุ่นในการมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050 โดยมีความก้าวหน้าที่แข็งแกร่งผ่านการผลักดันภาคการดูดกลับและกักเก็บ เช่น Forest carbon sink และ Blue carbon เป็นต้น อีกทั้งความก้าวหน้าด้านความร่วมมือระหว่างประเทศภายใต้ Joint Crediting Mechanism (JCM) รวมถึงกรอบแนวคิดโครงการ Decarbonization Leading Areas (DLA) ซึ่งเป็นโครงการลดก๊าซเรือนกระจกของชุมชนในจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยปัจจุบันนี้มี Pilot project จำนวนกว่า 100 โครงการ

                       ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศญี่ปุ่น (TSE) ในประเด็นเกี่ยวกับ การซื้อขายคาร์บอนเครดิตผ่าน TSE ที่เริ่มดำเนินการตั้งแต่ ต.ค. 2023 โดยมีรูปแบบการซื้อขายแบบ Standardization Spot Contract ซึ่งปัจจุบันมีการ Listing เฉพาะมาตรฐาน J-Credit และ JCM รวมถึง GX credit เท่านั้น นอกจากนี้ยังได้หารือเกี่ยวกับ กฎเกณฑ์ต่าง ๆ ในการกำกับการซื้อขาย เช่น ประเภทคาร์บอนเครดิตที่เข้าเกณฑ์ Standardization เวลาปิด-เปิด ผู้เล่นในตลาด ฯลฯ รวมถึงแผนการดำเนินงานในอนาคตผ่านการขยายขอบเขตรูปแบบการซื้อขายและมาตรฐานคาร์บอนเครดิตให้ครอบคลุมมากขึ้นอีกด้วย