facebook
icon telephoneCall Center02-141-9790
ค้นหา
icon switch languageภาษา
ขนาดตัวอักษร
การแสดงผล
icon line icon youtube icon tiktok
banner_list
  • 815

ครึ่งทางอันตราย นักวิทย์ฯชี้โลกร้อนขึ้นแล้ว 1 องศาฯ

10 พ.ย. 58

ผู้เชี่ยวชาญเผยอุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้นแล้ว 1 องศาเซลเซียส ครึ่งหนึ่งของขีดจำกัดที่มีการกำหนดไว้ซึ่งจะส่งผลกระทบมหาศาลต่อทุกชีวิตบนโลก

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 10 พ.ย. ว่า สำนักงานอุตุนิยมวิทยาอังกฤษ แถลงเมื่อวันจันทร์ว่า อุณภูมิผิวโลกโดยเฉลี่ยได้เพิ่มขึ้นถึง 1 องศาเซลเซียสนับแต่ช่วงก่อนยุคอุตสากรรม ซึ่งนับเป็นครึ่งทางที่ได้มีการกำหนดไว้ว่า อุณหภูมิจะต้องเพิ่มไม่เกิน 2 องศาเซลเซียสซึ่งเป็นขอบเขตอันตรายที่มนุษย์ไม่ควรก้าวข้ามไป

ขณะเดียวกัน องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (ดับเบิลยูเอ็มโอ) เผยรายงานระบุว่า ระดับก๊าซในชั้นบรรยากาศที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ หรือก๊าซเรือนกระจก ได้เพิ่มขึ้นสูงเกินกว่าเกณฑ์ 400 ส่วนใน 1 ล้าน ซึ่งนายมิเชล จาร์โรด์ ผู้อำนวยการดับเบิลยูเอ็มโอ กล่าวว่า ระดับดังกล่าวไม่เคยเกิดขึ้นบนโลกมาเป็นเวลากว่า 800,000 ปี หรืออาจยาวนานถึง 1 ล้านปี เท่ากับว่าขณะนี้มวลมนุษยชาติกำลังก้าวล้ำขอบเขตเกินกว่าที่จะคาดการณ์ได้

ก่อนหน้านี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างออกมาเปิดเผยผลการวิจัยและค้นพบเกี่ยวกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลก ทั้งในเรื่องของการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลที่จะกระทบต่อพื้นที่ชายฝั่งทั่วโลก ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของประชากรหลายร้อยล้านคน รวมถึงวิกฤตความยากจนที่จะทวีความรุนแรงและกระทบต่อประชากรโลกกว่า 100 ล้านคน

รายงานดังกล่าวมีขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ หรือ ซีโอพี 21 (COP21) จะมีขึ้นที่กรุงปารีสของฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 30 พ.ย. - 11 ธ.ค. นี้ ซึ่งจะเป็นการหารือของผู้แทนจาก 195 ประเทศ โดยนายฟรองซัวส์ ออลลองด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เสนอให้มีการจัดตั้งสมัชชาความมั่นคงทางสิ่งแวดล้อม ให้เป็นองค์กรชี้ขาดในการกำหนดมาตรการที่มีผลผูกพัน เพื่อให้กระบวนการเดินหน้าไปได้อย่างราบรื่น

การหารือที่ผ่านมา ยังคงติดขัดในประเด็นของงบประมาณ รวมถึงความเท่าเทียมและเป็นธรรมในการร่วมรับผิดชอบของแต่ละประเทศ โดยกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วเห็นว่าประเทศที่้ร่ำรวยควรมีบทบาทหลักในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และเสนอให้มีการลดการใช้เชื้อเพลิงราคาถูกอย่างเชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์ที่สร้างมลภาวะ เปลี่ยนไปใช้พลังงานสีเขียวทดแทน ขณะที่กลุ่มประเทศอุตสากรรรมชี้เป้าโจมตีไปที่กลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ขนาดใหญ่อย่างจีนและอินเดีย ที่มีกิจกรรมการใช้พลังงานปริมาณมหาศาลในการกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจและประชากร นอกจากนี้ ยูเอ็นยังเผยว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้มีการยื่นเสนอปรับเพดานการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิจากเดิม 2 องศาเซลเซียส มาอยู่ที่ 3 องศาเซลเซียส หรือมากกว่า


ที่มาของบทความและรูปภาพประกอบ: http://www.dailynews.co.th