"บุญทิวา ด่านศมสถิต" ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง กล่าวว่า ค่ายเยาวชนกล้ายิ้มดำเนินการร่วมกับกรมป่าไม้มาตั้งแต่ปี 2551 สร้างการเรียนรู้เพื่อจิตอนุรักษ์ที่เน้นการทำงานกับเยาวชนคนรุ่นใหม่ให้เกิดความรู้ความเข้าใจ พร้อมทั้งมีกระบวนการทางความคิดแบบบูรณาการเกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อสามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างมีคุณค่าและยั่งยืน

กิจกรรมค่ายเยาวชนครั้งนี้ออกแบบตามแนวคิดหลักคือGreen วันละนิด สร้างชีวิต ลดรอยเท้าคาร์บอน โดยคาดหวังให้เยาวชนเกิดความตระหนักและนำความรู้ไปสู่การมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในวิถีชีวิต ช่วยลดปัญหาโลกร้อน

"พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีรับสั่งเกี่ยวกับภาวะเรือนกระจกที่เป็นสาเหตุสำคัญของโลกร้อนเป็นครั้งแรกมาตั้งแต่เกือบ 30 ปีก่อน ทรงห่วงใยปัญหาสภาวะแวดล้อมที่เกิดจากการครอบครอง และใช้ทรัพยากรอย่างเกินความจำเป็น การทำลายธรรมชาติจะนำหายนะมาสู่แผ่นดิน และราษฎรก็จะเดือดร้อน"

"พระองค์ทรงใช้ธรรมชาติช่วยธรรมชาติ ที่เป็นเรื่องเรียบง่าย ไม่ต้องลงทุนมาก เราจึงสามารถทำได้ทุกคน หากเราทุกคนพร้อมใจกันสืบสานแนวพระราชดำริ โดยน้อมนำหลักปรัชญาแห่งเศรษฐกิจพอเพียงของพระองค์ที่ว่ามีความพอประมาณ มีเหตุผล มีแผนรองรับความไม่แน่นอน ควบคู่กับความรู้และมีคุณธรรม มาเป็นหลักในการดำเนินชีวิตและการดำเนินงานต่าง ๆ จะก่อให้เกิดความสมดุล เป็นความพอเพื่อให้เกิดความมั่นคงและยั่งยืน"

กิจกรรมค่ายเยาวชนกล้ายิ้มภาคใต้ ประจำปี 2559 จัดขึ้นที่จังหวัดตรัง มีเยาวชนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นจากจังหวัดต่าง ๆ ในภาคใต้ เข้าร่วมกิจกรรมรวม 80 คน โดยมีเป้าหมายเพื่อปลูกจิตสำนึกและสร้างเจตคติที่ถูกต้องเกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และส่งเสริมให้เยาวชนเรียนรู้ และเข้าใจเกี่ยวกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและภัยธรรมชาติในด้านต่าง ๆ รวมถึงผลกระทบจากการทำลายสิ่งแวดล้อม

ทั้งนั้น มีการให้ความรู้เชิงวิชาการในประเด็นต่าง ๆ พร้อมกับกิจกรรมภาคปฏิบัติ "เปิดโลก...ธรรมชาติ" ซึ่งแบ่งเป็นฐานกิจกรรม เช่น ฐานป่าชายเลน ฐานชายหาด และฐานเรียนรู้เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อให้เยาวชนได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง และกิจกรรมทำความรู้จักกับรอยเท้าคาร์บอน (Carbon Footprint) โดยจะให้เยาวชนสำรวจกิจกรรมในชีวิตประจำวันว่า มีกิจกรรมใดที่ก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อเยาวชนเกิดความตระหนักในพฤติกรรมของตนเองต่อผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม

สำหรับผู้เข้าร่วมค่ายเยาวชนกล้ายิ้มอย่าง"นนทพร พิรุณไพศาล" นักเรียนจากจังหวัดตรัง เล่าว่า การมาค่ายนี้เพราะอยากรู้เกี่ยวกับธรรมชาติเพิ่มมากขึ้น เพราะธรรมชาติจะอยู่กับเราอีกนาน ดังนั้นเราจึงควรต้องศึกษาไว้ โดยตอนแรกไม่รู้จักเรื่องภาวะโลกร้อน แต่เมื่อได้เรียนรู้จากค่ายนี้ทำให้เห็นว่าเป็นเรื่องใกล้ตัว

"เราควรช่วยกันประหยัดและลดสิ่งไม่จำเป็นใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติกช่วยปลูกต้นไม้ หรือหากไปเที่ยวก็ควรเก็บขยะกลับไป เพราะป่าทำให้เรามีอากาศหายใจ ทำให้เรามีอาหารรับประทาน ป่าให้ประโยชน์กับเราหลายอย่าง ดังนั้นเราควรช่วยกันดูแลป่าให้อยู่ไปนาน ๆ"

เพราะการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติไม่ใช่แค่ความรับผิดชอบของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง หรือใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นหน้าที่ของทุกคนที่ต้องร่วมกันรักษาและดูแลอย่างเต็มความสามารถ

ที่มาของบทความและรูปภาพประกอบ : http://www.prachachat.net