วันที่ 19 มิถุนายน 2566 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) โดย นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมหลักสูตรนักบริหารระดับสูงกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (นบส.ทส.) รุ่นที่ 2 พร้อมมอบนโยบายแก่ผู้เข้ารับการฝึกอบรมทั้งจากหน่วยงานภายในและภายนอกกระทรวงฯ รวมจำนวน 40 คน เพื่อเตรียมความพร้อมข้าราชการในระดับอำนวยการหรือเทียบเท่าจากทุกหน่วยงานภายใต้สังกัด ทส. และหน่วยราชการภายนอกกระทรวงฯ ให้เป็นนักบริหารระดับสูงที่มีศักยภาพในการบริหารงานท่ามกลางการเปลี่ยนแปลง สามารถนำความรู้ทางด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไปประยุกต์เป็นนโยบายในการทำงานที่เข้ากับสถานการณ์ของโลก โดยเฉพาะการขับเคลื่อนด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความหลากหลายทางชีวภาพ และ BCG Model เพื่อนำพาประเทศสู่ความยั่งยืน โดยมี นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย นายเกียรติชาย ไมตรีวงษ์ ผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก และคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงฯ เข้าร่วมในพิธี ณ ห้องประชุมอารีย์สัมพันธ์ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม

            ในการนี้ นายวราวุธฯ รมว.ทส. กล่าวว่า ปัจจุบันทุกวงการต่างให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อม ที่ถึงแม้ว่าจะดูเหมือนเป็นประเด็นเล็ก แต่มีผลกระทบเชื่อมโยงต่อประเด็นปัญหาที่ใหญ่ในระดับโลก อย่างผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ เรื่องสิ่งแวดล้อมจึงถูกสอดแทรกเข้าไปในทุกภารกิจของทุกหน่วยงาน ทุกกระทรวง เพื่อนำไปสู่ความยั่งยืน และเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับงานในทุกภารกิจ ดังนั้น การเสริมสร้างบุคลากรให้มีสมรรถนะเพิ่มขึ้นเป็นปัจจัยที่จะสามารถนำพาองค์กรให้มีความก้าวหน้า และต้องอาศัยเครื่องมือในการพัฒนาและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับองค์กร กระทรวงฯ จึงได้เล็งเห็นความสำคัญของการสร้างนักบริหารระดับสูงให้มีศักยภาพการปฏิบัติงานด้านการบริหารท่ามกลางการเปลี่ยนแปลง ส่งเสริมและสร้างเครือข่ายผู้นำที่มุ่งสู่การพัฒนา การแลกเปลี่ยนทัศนคติ มุมมองแนวคิดของผู้บริหารระดับสูง ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ สังคม ในทุกระดับ เพื่อให้เกิดมุมมองที่หลากหลาย สามารถกำหนดและผลักดันนโยบายทางด้านสิ่งแวดล้อมที่สร้างแรงกระเพื่อมทั้งในแนวราบและแนวดิ่งไปสู่การปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม และสามารถปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก้าวทันภาคเอกชนและสถานการณ์โลกที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อภารกิจของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและประชาชนต่อไป