facebook
icon telephoneCall Center02-141-9790
ค้นหา
icon switch languageภาษา
ขนาดตัวอักษร
การแสดงผล
icon line icon youtube icon tiktok
banner_list
  • [image_name]

ทุบสถิติใหม่ยุโรป พายุฝนเทกระหน่ำอิตาลีครึ่งวัน ปริมาณน้ำฝนสูง 742 มิลลิเมตร

08 ต.ค. 64

               ทุบสถิติใหม่ยุโรป – วันที่ 7 ต.ค. ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ปริมาณน้ำฝนที่ตกหนักจากอากาศสุดขั้วทุบสถิติในสัปดาห์นี้ในส่วนของอิตาลี ประเทศที่ขึ้นชื่อกับฝนตกในยุโรป หลังเมื่อวันจันทร์ที่ 4 ต.ค. พายุเข้าพัดถล่มทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ส่งผลให้ปริมาณน้ำฝนเยอะมีอย่างไม่เคยมีมาก่อนในยุโรปทั้งหมด หลังฝนตกลงมากกว่า 742 มิลลิเมตร ในเวลาเพียง 12 ชั่วโมง

               จังหวัดเจนัวของอิตาลี ซึ่งเป็นที่รู้จักถึงความงดงามทางธรรมชาติและแนวชายฝั่งขรุขระ กลายเป็นศูนย์กลางของฝนตกหนักครั้งล่าสุด หลังพายุเคลื่อนตัวช้าต่อเนื่องก่อนมาหยุดในภูมิภาคนี้เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 ต.ค. ถึงวันจันทร์ที่ 4 ต.ค. ส่งผลให้ฝนตกมากกว่า 925 มิลลิเมตร ในเมืองรอสซิกลีโอนี ห่างจากเมืองมีลานไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 100 กิโลเมตร

               สื่อท้องถิ่นมีลาน Corriere della Sera รายงานว่า น้ำฝน 925 มิลลิเมตร เทียบเท่ากับปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยในนครซีแอตเทิลของสหรัฐอเมริกาที่ใน 1 ปี ขณะที่กรุงลอนดอนของอังกฤษจะต้องใช้เวลาเฉลี่ย 15 เดือน สื่อรายงานด้วย โคลนถล่มและน้ำท่วมทำให้สะพานในเมืองคลีลีอาโนพังลงมา และประชาชนหลายสิบคนต้องได้รับการช่วยเหลือ

               นายมักซีมีเลียโน เฮร์เรรา นักอุตุนิยมวิทยา และผู้เชี่ยวชาญอากาศสุดขั้ว กล่าวว่า อากาศชื้นแฉะเกิดขึ้นปกติในพื้นที่นี้ของอิตาลี เนื่องจากภูมิภาคนี้มีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยมากกว่า 1,200 มิลลิเมตรต่อปี อย่างไรก็ตาม พายุดังกล่าวทำให้ปริมาณน้ำฝนสูงเกือบ 750 มิลลิเมตร ในเวลาเพียง 12 ชั่วโมง ทุบสถิติใหม่เป็นประวัติการณ์ของยุโรป สำหรับปริมาณน้ำฝนสูงสุดในช่วงเวลา 12 ชั่วโมง

               นายเฮร์เรราระบุว่า ในเมืองใกล้เคียงอย่าง ไกโร มอนเตนอตเต ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองโรสซีลีโยเน ไปทางตะวันตกราว 32 กิโลเมตร เมื่อวันจันทร์ที่ 4 ต.ค. น้ำท่วม 6 ชั่วโมงอย่างไม่เคยมีมาก่อนในอิตาลี ทำให้ปริมาณน้ำฝนสูงเกือบ 500 มิลลิเมตร ทุบสถิติจากน้ำท่วม 6 ชั่วโมงทั้งหมดที่เคยมีของประเทศ

               ด้าน ฟลัดลิสต์ องค์กรที่บันทึกเหตุการณ์อุทกภัยครั้งสำคัญๆ จากทั่วโลกระบุว่า ห่างออกไปทางตะวันออกเพียงไม่กี่กิโลเมตร ฝนตกหนักยังท่วมท้นเมืองวีโกมารัสโซ ที่อยู่ใกล้เคียง หลังปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมามีมากกว่า 180 มิลลิเมตร ในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง

               ห่างจากอิตาลีออกไปทางตะวันตกเฉียงใต้สักกว่า 4,800 กิโลเมตร บริเวณทะเลทรายในโอมานที่แทบไม่มีฝนตกเลยตลอดทั้งปี แต่ในปีนี้ น้ำท่วมรุนแรงเท่ากับปริมาณน้ำฝนของหลายๆ ปี หลังพายุไซโคลนชาฮีนเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งทางเหนือไกลของโอมาน ด้วยลมเฮอริเคนระดับ 1 ทำให้เมืองอัล คาบูราฮ์ ที่ปกติแห้งแล้ง ชุ่มฉ่ำไปด้วยฝนตกมากกว่า 300 มิลลิเมตร ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง

               สื่อท้องถิ่น เดอะ ไทม์ ออฟ โอมาน รายงานว่า ในราว 24 ชั่วโมง ปริมาณน้ำฝนดังกล่าวเทียบเท่ากับปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมามากกว่า 3 ปี ส่วนในเมืองใกล้เคียงอย่างซูไวค์ ปริมาณน้ำฝนปกติใช้เวลามากกว่า 1 ปี แต่ตกลงมาในเพียง 6 ชั่วโมง

               ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยาของโอมานระบุว่า พายุชาฮีนทำให้ปริมาณน้ำฝนในช่วง 6 ชั่วโมง สูงอย่างน่าทึ่งที่ 116 มิลลิเมตร มากกว่าที่ปริมาณน้ำฝนจะเห็นในตลอดทั้งปี

โลกร้อนทำให้ฝนตกมากขึ้น

               พายุฝนหนักทั่วโลกเกิดขึ้นอย่างมากและเป็นที่สังเกตชัดเจนขึ้น เมื่ออุณหภูมิโลกสูงขึ้น ฝนตกหนักจะทำให้น้ำมากขึ้นด้วย ตาม รายงาน ของคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (IPCC) ซึ่งย้ำว่า ทุกๆ 1 องศาเซลเซียสของอุณหภูมิอากาศที่เพิ่มขึ้น บรรยากาศจะสามารถกักเก็บไอน้ำได้มากขึ้นประมาณ 7%

               ฤดูร้อนปีนี้ของสหรัฐเป็นตัวอย่างที่ดีว่า ระบบความกดอากาศเขตร้อนเช่น พายุไอดา และพายุเฮนรี ทุบสถิติใหม่หลายครั้งในช่วงไม่กี่สัปดาห์ ย้อนกลับไปเดือนส.ค. รัฐเทนเนสซีทุบสถิติก่อนหน้าหลังฝนตกมากกว่า 432 มิลลิเมตร ในเมืองแมคอีเวนในเวลาเพียง 24 ชั่วโมง

               และอีกสัปดาห์ถัดมา เศษซากของเฮอริเคนไอดายังทำให้ฝนตกหนักทางออกเฉียงเหนือของสหรัฐ ทุบสถิติปริมาณน้ำฝนรายวันและตลอดที่มีการบันทึกจากรัฐนิวเจอร์ซีย์ถึงเมืองนิวอิงแลนด์

               นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า อัตราการเกิดฝนตกชุกเหล่านี้กลายเป็นความปกติมากขึ้น เนื่องจากโลกร้อนจากมนุษย์ ตามรายงานของสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศที่ระบุว่า “ความถี่และความรุนแรงของฝนตกหนักเพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1950 เหนือพื้นที่ส่วนใหญ่”

               น้ำท่วมฉับพลันร้ายแรงยังเป็นข่าวช็อกโลกในช่วงฤดูร้อนนี้ รวมถึงน้ำท่วมครั้งใหญ่ในเดือนก.ค.ทั่วยุโรปตะวันตก หลังฝนตกเป็นเวลาหลายเดือนภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ทำให้ถนนในเมืองของเบลเยียมและเยอรมนีจมน้ำ

               และข้ามที่ไปจีนแผ่นดินใหญ่ เมืองเจิ้งโจวที่มีประชากร 12 ล้าน ตอนกลางของประเทศ เผชิญน้ำท่วมและได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด คร่าชีวิตมากกว่า 300 ราย โดยพื้นที่ใกล้เคียงทั้งหมดจมอยู่ใต้น้ำ และผู้โดยสารติดอยู่ในรถไฟใต้ดินจมน้ำท่วมเช่นกัน

ที่มา: ข่าวสดออนไลน์