สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานจากนครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เมื่อวันที่ 24 มี.ค. ว่า ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) อนุมัติเงินกู้ยืม 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 17,438 ล้านบาท) แก่รัฐบาลจีน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในแผนส่งเสริม "สินเชื่อเพื่อโลกสีเขียว" มูลค่า 1,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 48,828 ล้านบาท) ภายในระยะเวลาอีก 6 ปี ข้างหน้า เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตมลพิษทางอากาศในกรุงปักกิ่งและพื้นที่โดยรอบ โดยยังมีเงินสนับสนุนราว 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากธนาคารหัวเซี่ย และอีก 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 13,951 ล้านบาท) จากตราสารทุน

เงินทุนดังกล่าวจะถูกจัดสรรให้แก่ธุรกิจต่างๆ ในพื้นที่กรุงปักกิ่ง มณฑลเหอเป่ย และนครเทียนจิน รวมถึงพื้นที่โดยรอบ เพื่อช่วยเหลือในมาตรการการรับมือกับมลพิษทางอากาศ ภายใต้แผนแม่บทของรัฐบาลในการควบคุมและป้องกัน เช่นการลดการบริโภคถ่านหิน และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งจะมีการจัดตั้งศูนย์สินเชื่อเพื่อโลกสีเขียวโดยธนาคารหัวเซี่ย รวมถึงมีการออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่างๆ ที่ช่วยส่งเสริมเรื่องนี้

ทั้งนี้ จีนเป็นประเทศที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกรายใหญ่ที่สุดของโลก ส่วนหนึ่งมาจากการพึ่งพิงพลังงานจากถ่านหินเป็นหลัก โดยกระแสไฟฟ้าที่แจกจ่ายภายในประเทศราวร้อยละ 70 มาจากโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหิน ซึ่งรัฐบาลตั้งเป้าลดการใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงดึกดำบรรพ์หรือเชื้อเพลิงฟอสซิลลง ด้วยการเพิ่มสัดส่วนพลังงานจากแหล่งอื่น ทั้งพลังงานนิวเคลียร์ พลังงานน้ำ พลังงานลม และพลังงานแสงอาทิตย์ โดยตั้งเป้าลดการปล่อยมลพิษในภาคส่วนพลังงานลงร้อยละ 60 ภายในปี 2563

ปักกิ่งเป็นเมืองหนึ่งของจีนที่ต้องเผชิญปัญหามลพิษทางอากาศขั้นวิกฤต โดยเป็นผลมาจากมลภาวะจากยานพาหนะ ภาคอุตสาหกรรม บวกกับปัจจัยทางสภาพภูมิอากาศที่ทำให้มลภาวะกระจุกตัว ไม่มีการหมุนเวียนของอากาศ และทำให้ค่ามลพิษในพื้นที่พุ่งสูง ในส่วนของกรุงปักกิ่งและพื้นที่โดยรอบ รัฐบาลตั้งเป้าจะลดระดับมลภาวะลงให้ได้ร้อยละ 40 จากตัวเลขของปี 2556 ภายในปี 2563.

ที่มาของบทความและรูปภาพประกอบ http://www.dailynews.co.th