facebook
icon telephoneCall Center02-141-9790
ค้นหา
icon switch languageภาษา
ขนาดตัวอักษร
การแสดงผล
icon line icon youtube icon tiktok
banner_list
  • 1566

น้ำแข็งขั้วโลกเหนือละลายเพิ่มขึ้น สัตว์เสี่ยงสูญพันธุ์

09 ก.ย. 60

น้ำแข็งในทะเลขั้วโลกเหนือละลายมากขึ้น ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสัตว์หลายชนิด ทั้งยังกระทบห่วงโซ่อาหาร ชี้อาจถึงขั้นสูญพันธุ์

ทีมข่าวเอพี เดินทางสำรวจขั้วโลกเหนือ ด้วยเส้นทางเดินเรือสาย Northwest Passage หรือ เส้นทางเดินเรือตอนเหนือของทวีปอเมริกาเหนือ คือบริเวณที่น้ำแข็งขั้วโลกกำลังจะละลาย เมื่อความอบอุ่นในช่วงฤดูร้อนทวีความรุนแรงขึ้น น้ำแข็งในทะเลลดลงพร้อมกับการหายไปของนักล่า และที่อยู่อาศัยของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ อย่างเช่น วอล์รัส, หมีขั้วโลก และสายพันธุ์ของแมวน้ำจำนวนมาก

พอลา วอน เวลเลอร์ นักชีววิทยาภาคสนาม ระบุว่า บางส่วนของสัตว์เหล่านี้ ซึ่งอาศัยอยู่กับน้ำแข็ง จะไม่สามารถปรับตัวได้ทันกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ดังนั้น การที่น้ำแข็งค่อยๆ หายไป จึงส่งผลกระทบต่อสัตว์และห่วงโซ่อาหารอย่างแน่นอน หน่วยงานดูแลสัตว์ป่าและปลา ของสหรัฐฯ เปิดเผยรายงานเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งระบุว่า หมีขั้วโลกใกล้จะสูญพันธุ์เนื่องจากการหายไปของน้ำแข็งขั้วโลก ซึ่งขณะนี้ ประชากรหมีขั้วโลกมีอยู่ประมาณ 2 หมื่น 6 พันตัว

มาตุซี่ แมนนิ่ง ชาวเอสกิโมจากเกาะแบฟฟิน พรมแดนทางตะวันออกเฉียงเหนือของแคนาดากับกรีนแลนด์ ที่ฝึกงานบนเรือตัดน้ำแข็ง MSV นอร์ดิกา บอกว่า เขาเจอหมีขั้วโลกตัวหนึ่งระหว่างการเดินทาง แมนนิ่ง ระบุว่า มีสิ่งหนึ่งที่เขาเห็นในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา นั่นก็คือมีวาฬเพชรฆาตมากขึ้น เมื่อ 15 หรือ 25 ปีก่อนยังไม่มีอะไรเลย แต่ตอนนี้เราพบมันได้ทุกช่วงฤดูร้อน และโดย ทั่วไปมันจะกินแมวน้ำทั้งหมด หรือแม้แต่จู่โจมเรือ

นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศยังส่งมีผลต่อวิธีการสำรวจหาน้ำมันดิบและแก๊สธรรมชาติด้วย เนื่องจากปัจจุบัน มนุษย์เสี่ยงภัยมากขึ้นในการเดินทางไปยังขั้วโลกเหนือ เพื่อเสาะหาแหล่งแร่และเชื้อเพลิงฟอสซิลใหม่ๆ การรั่วไหลของน้ำมันจากแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ดำเนินการในพื้นที่ห่างไกลเป็นสาเหตุสำคัญที่นักสิ่งแวดล้อมมีความกังวล โดยเฉพาะตั้งแต่เกิดเหตุภัยพิบัติจากเรือขนน้ำมัน แอกซอน วัลเดซ เมื่อปี 2532

ชาร์ลส์ ลาติเมอร์ ผู้จัดการโครงการของกลุ่มกรีนพีซ ระบุว่า ขณะที่โลกร้อนขึ้นและน้ำแข็งละลายมากขึ้น บรรดาบริษัทน้ำมันก็กำลังหาโอกาสทางธุรกิจเพื่อเจาะน้ำมันมากและลึกขึ้นในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งน่าเป็นห่วง เนื่องจากพื้นที่เหล่านั้นไม่เอื้อให้เกิดการตอบสนองอย่างรวดเร็วหากเกิดเหตุน้ำมันรั่วไหล ซึ่งสำคัญมากสำหรับโลกและคนที่อาศัยอยู่ใกล้บริเวณนั้นๆ

นอกจากนี้ เสียงดังใต้น้ำที่เกิดจากการระเบิดหรือขุดเจาะยังสามารถทำให้สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมสูญเสียการรับรู้และเดินทางในทะเล อย่างเช่น วาฬ ซึ่งใช้เสียงในการสื่อสารและนำทาง นอกจากนี้สัตว์อื่นๆ ที่มีขนาดเล็กกว่ายังอาจได้รับผลกระทบในการสืบพันธุ์อีกด้วย


ที่มาของบทความและรูปภาพประกอบ: http://www.thai-hotnews.com/