facebook
icon telephoneCall Center02-141-9790
ค้นหา
icon switch languageภาษา
ขนาดตัวอักษร
การแสดงผล
icon line icon youtube icon tiktok
banner_list
  • [image_name]
  • [image_name]

น้ำแข็งที่กรีนแลนด์ ละลายเร็วผิดปกติไปแล้ว 2 พันล้านตัน

18 มิ.ย. 62

ก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่กรีนด์แลนด์ละลายไปมากกว่า 40% หรือคิดเป็นปริมาณทั้งหมด 2 พันล้านตัน! ซึ่งถือว่ามากผิดปกติจนน่ากลัว โดยปกติแล้ว Melting Season หรือฤดูการหลอมละลายของน้ำแข็งกรีนด์แลนด์จะอยู่ในช่วงเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม และละลายสูงสุดในเดือนกรกฎาคม แต่การละลายที่มาเร็วกว่าปกติในปัจจุบันมีปริมาณเท่ากับขนาดของ National Mall ใน Washington DC คูณด้วยความสูง 8 เท่าของ Washington Monument

ก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่กรีนด์แลนด์ละลายไปมากกว่า 40% หรือคิดเป็นปริมาณทั้งหมด 2 พันล้านตัน! ซึ่งถือว่ามากผิดปกติจนน่ากลัว โดยปกติแล้ว Melting Season หรือฤดูการหลอมละลายของน้ำแข็งกรีนด์แลนด์จะอยู่ในช่วงเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม และละลายสูงสุดในเดือนกรกฎาคม แต่การละลายที่มาเร็วกว่าปกติในปัจจุบันมีปริมาณเท่ากับขนาดของ National Mall ใน Washington DC คูณด้วยความสูง 8 เท่าของ Washington Monument

นักวิทยาศาสตร์ Jason Box จาก Geological Survey of Denmark and Greenland คาดการณ์ว่าปี 2019 จะเป็นปีที่มีการละลายของน้ำแข็งกรีนด์แลนด์สูง การละลายเริ่มตั้งแต่เดือนเมษายนเร็วกว่าปกติถึง 3 อาทิตย์ แถมปริมาณน้ำแข็งยังบางกว่าปกติในแถบ western Greenland อีกด้วย คาดว่าเกิดจากการที่ความกดอากาศสูงพัดพา เอาอากาศร้อนชื้นมาจากทะเล Atlantic บวกกับความกดอากาศสูงที่เคลื่อนตัวมาจาก Eastern U.S. โดยปกติแล้วการละลายของน้ำแข็งอย่างหนักเคยมีบันทึกมาก่อนในปี 2007, 2010 และ 2012 แต่ปีนี้มาเร็วผิดปกติและมีโอกาสแซงปี 2012 นักวิทยาศาสตร์เผยว่า การละลายอย่างหนักไม่เคยพบก่อนช่วงปี 1990 เลย

ทั้งหมดนี่เป็นผลมาจากภาวะโลกร้อน หากเรายังไม่ลดการปล่อยคาร์บอนอันเป็นสาเหตุหลักและเปลี่ยนวิถีชีวิต อนาคตน้ำทะเลจะสูงขึ้นและมีหลายเมืองที่ต้องจมน้ำ หนึ่งในนั้นที่เป็นไปได้ ก็คือ กรุงเทพฯ

องค์กร IPCC-Intergovernmental Panel on Climate Change หรือคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เคยออกมาประกาศเตือนเมื่อปีที่แล้วว่าเรามีเวลาเพียง 10 ปี ในการแก้ไขไม่ให้อุณหภูมิสูงเกิน 1.5 เซลเซียส ก่อนโลกจะเสียหายอย่างถาวร

ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ผู้นำประเทศต่างๆ จะออกมาดำเนินการอย่างจริงจังให้มากกว่าเดิม

ที่มาของข่าว: www. mgronline.com