facebook
icon telephoneCall Center02-141-9790
ค้นหา
icon switch languageภาษา
ขนาดตัวอักษร
การแสดงผล
icon line icon youtube icon tiktok
banner_list
  • [image_name]

บ้านประหยัดพลังงาน อยู่สู้ภาวะโลกร้อน

05 พ.ย. 62

โลกร้อน ทุกคนเดือดร้อน ถึงจะอยู่ยาก แต่ก็ต้องอยู่ ฉะนั้น เรามาหาวิธีอยู่อย่างยั่งยืน ด้วยแนวคิดบ้านประหยัดพลังงานกันดีกว่า แนวคิดการอนุรักษ์พลังงานด้วยการปรับปรุง สร้าง ตกแต่งบ้าน เพื่อลดการใช้พลังงาน และเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการเสียพลังงาน แต่ไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ใช้ในการสร้างบ้านที่หลากหลายมากขึ้น ทำให้การสร้างบ้านไม่ยุ่งยากเหมือนแต่ก่อน อีกทั้งนวัตกรรมของวัสดุในการสร้างบ้านและตกแต่งบ้านที่นอกจากมีความสวยงาม แข็งแรงแล้วยังพ่วงมาด้วยคุณสมบัติที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและประหยัดพลังงานมีอยู่มากมาย

ผนังดี ไม่มีร้อน เลือกแต่แรก จบทุกปัญหา

 
ผนังของบ้าน เปรียบเสมือนเกราะกำบังของที่อยู่อาศัย การเลือกวัสดุก่อสร้างจึงไม่ได้เป็นเพียงแค่คำนึงถึงความสวยงามเพียงเท่านั้น แต่การเลือกวัสดุให้เหมาะกับรูปแบบบ้าน ให้มีความคงทน คุ้มค่าต่อการเลือกใช้ รวมไปถึงสามารถประหยัดต้นทุนและลดระยะเวลาในการก่อสร้าง ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ควรคำนึงถึง โดยเฉพาะในส่วนของผนังของบ้านจะต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เพราะบ้านจะต้องอยู่กับเราไปอีกหลายปี

 
ในปัจจุบันนั้นมีวัสดุที่สามารถนำมาใช้ในการก่อสร้างด้วยกันหลายชนิด ดังเช่น “อิฐมวลเบา สมาร์ทบล็อค” เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ก่อสร้างผนังที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน นอกเหนือจากความคงทนแข็งแรงแล้ว สมาร์ทบล็อคยังสามารถตอบทุกโจทย์ของความต้องการ ในการก่อสร้างผนัง ให้กับที่อยู่อาศัยได้เป็นอย่างดี

 
“อิฐมวลเบา สมาร์ทบล็อค” อิฐมวลเบาประหยัดพลังงาน เบอร์ 5 ผลิตด้วยเทคโนโลยีและเครื่องจักรที่ทันสมัย และกรรมวิธีการผลิตที่ต้องผ่านการอบ ด้วยเครื่องอบไอน้ำภายใต้อุณหภูมิที่เหมาะสมและคงที่ (AUTOCLAVED) ทำให้สมาร์ทบล็อคมีฟองอากาศขนาดเล็กกระจายตัวอยู่อย่างสม่ำเสมอในเนื้อวัสดุ มีความแข็งแรงสูง จึงสามารถช่วยลดปริมาณความร้อนส่งผ่านจากภายนอกเข้าสู่ภายในตัวบ้านได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้อุณหภูมิภายในบ้านเย็นกว่าอิฐปกติทั่วไป คุณสมบัติดังกล่าวนี้สามารถทำให้บ้านที่ใช้ผนังสมาร์ทบล็อคประหยัดค่าใช้จ่ายจากการใช้เครื่องปรับอากาศ โดยช่วยลดค่าไฟฟ้าได้ถึง 30%

 
การออกแบบและการผลิตจากเทคโนโลยีที่ทันสมัยทำให้สมาร์ทบล็อค สามารถช่วยประหยัดต้นทุนในการก่อสร้างเพื่อเป็นประโยชน์ให้กับผู้อยู่อาศัยอีกทางหนึ่ง การเลือกใช้สมาร์ทบล็อคที่มีน้ำหนักเบากว่าอิฐมอญ 2-3 เท่า สามารถช่วยลดน้ำหนักของโครงสร้างของบ้านได้ดี และในการก่อสร้างผนังสมาร์ทบล็อคใช้จำนวน 8.33 ก้อน ต่อ 1 ตารางเมตร ซึ่งต่างจากอิฐมอญที่ใช้จำนวนก้อนที่มากกว่า หรือประมาณ 120 ก้อนต่อการก่อผนัง 1 ตารางเมตร ด้วยจำนวนก้อนน้อยกว่าในพื้นที่ขนาดเท่ากัน ทำให้สมาร์ทบล็อค สามารถก่อสร้างได้เร็วกว่า ซึ่งประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างที่สำคัญสมาร์ทบล็อค มีค่าการนำความร้อน และค่าการถ่ายเทความร้อนรวมที่ต่ำกว่าอิฐมอญ สามารถป้องกันความร้อนจากภายนอก ได้มากกว่าผนังที่ก่อด้วยอิฐมอญ ถึง 4-8 เท่า

 
การคำนึงถึงความปลอดภัย การปกป้องผู้อยู่อาศัยจากอันตรายและสิ่งรบกวน เป็นคุณสมบัติเด่นที่สมาร์ทบล็อคให้ความสำคัญด้วยเช่นกัน ผนังที่ก่อสร้างจากอิฐมวลเบาสมาร์ทบล็อคมีค่าการรับแรงอัดสูง และความหนาแน่นมาก ทำให้มีคุณสมบัติป้องกันเสียงที่ส่งผ่านจากด้านหนึ่งไปยังด้านตรงข้ามลงได้ถึง 43 เดซิเบล ไม่เพียงเท่านั้น สมาร์ทบล็อค ยังมีคุณสมบัติไม่ติดไฟ และทนอัคคีภัยที่อุณหภูมิ 1,100 องศาเซลเซียส ได้นานกว่า 4 ชั่วโมง โดยที่ผนังยังคงมีความแข็งแรงไม่แตกร้าว ทนไฟ ไม่แตกหักง่าย ช่วยปกป้องอันตรายจากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ทำให้ยืดเวลาในการหนีไฟของผู้อยู่อาศัยมากขึ้น ทำให้มีโอกาสรอดชีวิตมากขึ้น

 
ดังที่กล่าวไปแล้วข้างต้น การเลือกวัสดุในการก่อสร้างที่ให้ประโยชน์มากกว่าแค่ความสวยงามนั้น อิฐมวลเบา เป็นวัสดุอย่างหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงการให้ประโยชน์ที่ช่วยประหยัดพลังงานกับผู้อาศัยอย่างแท้จริง

 
ฉนวนกันความร้อน เลือกให้ครบมิติ

 
ฉนวนกันความร้อนใต้หลังคามีผลอย่างยิ่ง ยิ่งร้อน ยิ่งเปิดแอร์ เป็นสาเหตุ ที่ทำให้ค่าไฟพุ่งสูงขึ้น ต้นเหตุของความร้อนที่เข้ามาสู่อาคารกว่า 70% มาจาก บนหลังคาเนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นจุดรับความร้อนของบ้านแบบเต็มๆ ทำให้การติดฉนวนกันความร้อนใต้หลังคา กลายเป็นเรื่องสำคัญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพื่อกันความร้อนเข้าสู่ตัวบ้าน ซึ่งไม่ว่าจะติดไว้ที่หลังคาหรือเพดานก็สามารถช่วยทำให้อากาศภายในเย็นลง วัสดุดังกล่าวจะช่วยให้ความร้อนที่เข้ามาสะท้อนกลับไป เมื่อความร้อนไม่สามารถเข้ามาได้ ทำให้อากาศภายในเย็นลง เป็นการประหยัดพลังงานอีกด้วย

 
ฉนวนกันความร้อนใต้หลังคา AERO-ROOF มีโครงสร้างเป็นฉนวนยางสังเคราะห์เซลปิดที่ ภายในแต่ละเซลมีฟองอากาศเล็กๆ เป็นจำนวนมาก ทำหน้าที่เป็นฉนวนกันความร้อน เคลือบด้วยอลูมิเนียมฟอยล์ความหนาอยู่ที่ 10 มิลลิเมตร ซึ่งมีประสิทธิภาพต่อการกันความร้อนได้ดีเยี่ยม สามารถช่วยลดอุณหภูมิของอาคารได้ดีเทียบเท่าฉนวนที่มีความหนา 5 นิ้ว

 
นอกจากนี้ เซลปิดยังทำหน้าที่ช่วยให้ AERO-ROOF ทนทานต่อความชื้น เพราะการที่เซลของฉนวนปิด ทำให้น้ำไม่สามารถซึมเข้ามาสร้างความเสียหายกับฉนวนได้ อีกทั้งยังหมดห่วงเรื่องเชื้อราอีกด้วย ที่สำคัญ อายุการใช้งานยาวนาน มากกว่า 10 ปี เพราะไม่เสื่อมสภาพจากความชื้นนั่นเอง

 
จุดเด่นของฉนวนกันความร้อนใต้หลังคา ซึ่งไม่ว่าจะติดไว้ที่หลังคาหรือเพดานก็สามารถช่วยทำให้อากาศภายในเย็นลง วัสดุดังกล่าวจะช่วยให้ความร้อนที่เข้ามาสะท้อนกลับไป เมื่อความร้อนไม่สามารถเข้ามาได้ ทำให้อากาศภายในเย็นลง เป็นการประหยัดพลังงานอย่างดี

 
ดังที่กล่าวมานี้ เป็นเพียงบางส่วนของวิธีที่จะทำให้ที่อยู่อาศัยหรือบ้าน กลายเป็นบ้านที่ช่วยประหยัดพลังงานช่วยลดการเกิดปัญหาภาวะโลกร้อนและประหยัดค่าใช้จ่ายได้ ยังคงมีวิธีอื่น ๆ เช่น การจัดตำแหน่งบ้านเพื่อรับทิศทางลม-แสงแดด, การเลือกอุปกรณ์ไฟฟ้า, การปลูกต้นไม้ประดับ ซึ่งนอกจากจะทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายส่วนตัวแล้ว หากทุกคนหันมาช่วยกันสร้างบ้านหรือเลือกวัสดุที่สามารถประหยัดพลังงานและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม จะทำให้เรามีพลังงานใช้ได้ต่อไปในระยะยาว

 
ที่มาของข่าว: www.mgronline.com