วันที่ 13-17 ตุลาคม 2568 องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ TGO ร่วมกับ สำนักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ (TICA) และ องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) จัดการฝึกอบรมโครงการ The ASEAN Inclusive Programme on Ambitious Climate Action through International Market-based Approaches ภายใต้โครงการฝึกอบรมสำหรับประเทศที่สาม (Third Country Training Programme: TCTP) โดยมีผู้แทนจากกลุ่มประเทศอาเซียนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศไทยเข้าร่วมการอบรมกว่า 30 คน ณ โรงแรมทีเค พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ

                    การจัดฝึกอบรมมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างศักยภาพและองค์ความรู้แก่ประเทศสมาชิกอาเซียนในการดำเนินการลดก๊าซเรือนกระจกอย่างมีส่วนร่วมและยั่งยืน โดยเฉพาะการนำ กลไกตลาดระหว่างประเทศตาม Article 6 of the Paris Agreement มาใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมในภูมิภาค

                    ภายใต้การฝึกอบรมได้รับเกียรติจาก นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมจากประเทศสมาชิกอาเซียน และได้กล่าวว่า

                    “ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นความท้าทายเร่งด่วนที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน การมีเครื่องมือใหม่ภายใต้มาตรา 6 ช่วยให้ประเทศต่าง ๆ สามารถดำเนินการร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และครอบคลุมมากขึ้น การฝึกอบรมครั้งนี้เป็นเวทีสำคัญในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ เพื่อร่วมกันผลักดันภูมิภาคอาเซียนสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ในอนาคต”

                    โครงการฝึกอบรมดังกล่าวประกอบด้วยการบรรยายเชิงวิชาการโดยผู้เชี่ยวชาญด้านกลไกตลาดคาร์บอน การอภิปรายแลกเปลี่ยนมุมมองระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน และการศึกษาดูงานในพื้นที่ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนานโยบายและมาตรการภายในประเทศของตน

                    การดำเนินโครงการนี้สะท้อนถึงบทบาทเชิงรุกของประเทศไทยในฐานะ “ศูนย์กลางตลาดคาร์บอนของภูมิภาคอาเซียน (ASEAN Carbon Market Hub)” ที่มุ่งผลักดันให้เกิดการพัฒนาองค์ความรู้ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระดับภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังเป็นกลไกสำคัญในการเสริมสร้างความเชื่อมั่นต่อศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นผู้นำด้านการจัดการคาร์บอนในระดับภูมิภาคและระดับโลก