facebook
icon telephoneCall Center02-141-9790
ค้นหา
icon switch languageภาษา
ขนาดตัวอักษร
การแสดงผล
icon line icon youtube icon tiktok
banner_list
  • 2031

ยูเอ็น เตือนทั่วโลกเร่งแก้ปัญหาโลกร้อนก่อนหายนะมาเยือน

29 มี.ค. 62

 เลขาธิการยูเอ็น ออกมาเตือนทั่วโลก เสนอแผนที่เป็นรูปธรรม ในการต่อสู้กับปัญหาโลกร้อน โดยชี้ให้เห็น ไซโคลน “อิได” ที่พัดถล่ม 3 ประเทศในแอฟริกา มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน เป็นสัญญาเตือนหายนะที่เกิดจากโลกร้อนชัดเจน

 เลขาธิการยูเอ็น ออกมาเตือนทั่วโลก เสนอแผนที่เป็นรูปธรรม ในการต่อสู้กับปัญหาโลกร้อน โดยชี้ให้เห็น ไซโคลน “อิได” ที่พัดถล่ม 3 ประเทศในแอฟริกา มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน เป็นสัญญาเตือนหายนะที่เกิดจากโลกร้อนชัดเจน

     นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ หรือยูเอ็น เตือนหลายประเทศเสนอมาตรการที่เป็นรูปธรรมต่อที่ประชุมโลกร้อนครั้งหน้า ขณะที่เขาเผยแพร่รายงานร้อนชิ้นหนึ่งเกี่ยวกับสภาพโลกร้อนขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลก หรือดับเบิลยูเอ็มโอ เมื่อวันพฤหัสบดี เขาบอกว่าซากความเสียหายที่เกิดจากไซโคลน “อิได” ใน 3 ประเทศแอฟริกาเมื่อต้นเดือนนี้ เป็นสัญญาณเตือนหายนะของโลก อันเนื่องมากจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก และเลขาธิการยูเอ็น ยังระบุด้วยว่า สภาพภูมิอากาศเลวร้ายเมื่อปีที่แล้ว ส่งผลให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตจำนวนมาก 

     ดับเบิลยูเอ็มโอเผยแพร่รายงานชิ้นนี้ ขณะที่ นายกูเตอร์เรสก็ขอเสียงสนับสนุนสำหรับการประชุมสุดยอดโลกร้อนในเดือนกันยายน เพื่อโน้มน้าวให้ฝ่ายการเมืองจัดการวิกฤตโลกร้อนอย่างจริงจัง ผู้แทนของประเทศต่าง ๆ ควรจะพิจารณาส่งเสริมแผนการในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภายใต้ความตกลงปารีส หากไม่แล้วมันจะสายเกินแก้ ไม่สามารถทำให้เป้าหมายที่กำหนดไว้ในกรุงปารีส ประสบความสำเร็จได้

     ทั้งนี้ ความตกลงปารีส ปี 2558 ซึ่งมีเกือบ 200 ประเทศเห็นชอบ ตั้งเป้าร่วมกันควบคุมอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกไม่ให้เพิ่มขึ้นเกิน 2 องศาเซลเซียสจากระดับอุณหภูมิช่วงก่อนยุคอุตสาหกรรม ซึ่งรวมทั้งการลดการใช้เชื้อเพลิงจากฟอสซิล แต่อุณหภูมิของโลกร้อนขึ้นประมาณ 1 องศาเซลเซียสแล้ว และอาจจะเห็นอุณหภูมิเพิ่มขึ้น 3-5 องศาเซลเซียสภายในสิ้นสุดศตวรรษนี้ โดยบรรดานักวิทยาศาสตร์ได้เชื่อมโยงปัญหาโลกร้อน กับการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของระดับน้ำทะเล, การละลายของน้ำแข็งในทะเล, การละอายของธารน้ำแข็ง และสภาพอากาศแปรปรวนรุนแรงอื่น ๆ เช่นการเกิดคลื่นความร้อน 

     ทั้งนี้ ความตกลงปารีส ปี 2558 ซึ่งมีเกือบ 200 ประเทศเห็นชอบ ตั้งเป้าร่วมกันควบคุมอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกไม่ให้เพิ่มขึ้นเกิน 2 องศาเซลเซียสจากระดับอุณหภูมิช่วงก่อนยุคอุตสาหกรรม ซึ่งรวมทั้งการลดการใช้เชื้อเพลิงจากฟอสซิล แต่อุณหภูมิของโลกร้อนขึ้นประมาณ 1 องศาเซลเซียสแล้ว และอาจจะเห็นอุณหภูมิเพิ่มขึ้น 3-5 องศาเซลเซียสภายในสิ้นสุดศตวรรษนี้ โดยบรรดานักวิทยาศาสตร์ได้เชื่อมโยงปัญหาโลกร้อน กับการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของระดับน้ำทะเล, การละลายของน้ำแข็งในทะเล, การละอายของธารน้ำแข็ง และสภาพอากาศแปรปรวนรุนแรงอื่น ๆ เช่นการเกิดคลื่นความร้อน

         

ขอขอบคุณ ที่มาของข่าว: นิวทีวี (New TV)