Premium T-VER หรือ โครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทยขั้นสูง ที่พัฒนาขึ้นโดย องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. ถือเป็นกลไกคาร์บอนเครดิตภายในประเทศ (National/Subnational Crediting Mechanisms) โดยปรับปรุงให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล รวมทั้งอ้างอิงข้อกำหนดของกฎ รูปแบบ และกระบวนการขั้นตอนสำหรับกลไกลดก๊าซเรือนกระจก (Rules, Modalities and Procedures: RMP) ที่จัดตั้งขึ้นภายใต้ความตกลงปารีส ข้อ 6 (Article 6) และตอบสนองความต้องการของตลาดคาร์บอนเครดิตที่ต้องการคาร์บอนเครดิตมีคุณภาพสูง (High quality credits) โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้เกิดการลดก๊าซเรือนกระจกที่แท้จริง น่าเชื่อถือ โปร่งใส ตรวจสอบได้ ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนและไม่นับซ้ำ และสนับสนุนให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจก

                     เมื่อเปรียบเทียบ Premium T-VER กับกลไกคาร์บอนเครดิตมาตรฐานอิสระ (Independent Crediting Mechanisms) ของต่างประเทศอย่าง Verified Carbon Standard (VCS) ที่พัฒนาขึ้นโดยหน่วยงานอิสระขื่อ VERRA มีสำนักงานอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า หลักการ วิธีการคำนวณ การตรวจวัด การพิสูจน์ส่วนเพิ่มเติม (Additionality) กระบวนการตรวจสอบทวนสอบโดยบุคคลที่สาม (Third-party) และขั้นตอนการพัฒนาโครงการของ Premium T-VER มีความเทียบเท่ากับมาตรฐาน VCS โดยมีบางเรื่องที่ Premium T-VER มีความเข้มข้นกว่า เช่น การคิดค่ากรณีฐาน (Baseline) ของ Premium T-VER คิดจากค่าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำกว่าการดำเนินงานตามปกติ (Below BAU) ในขณะที่ VCS คิดจากค่าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ไม่มีโครงการ (Business as Usual: BAU) นอกจากนี้ หากพิจารณาเรื่องค่าใช้จ่ายในการพัฒนาโครงการ Premium T-VER จะถูกกว่า VCS เช่น ค่าธรรมเนียมขึ้นทะเบียนโครงการ Premium T-VER เก็บ 10,000 บาทต่อโครงการ ของ VCS คิดจากปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่คาดว่าจะลดได้ของโครงการต่อปี คูณ 0.1 USD และเก็บสูงสุดอยู่ที่ 10,000 USD ตัวอย่าง ถ้าโครงการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ มีปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่คาดว่าจะลดได้ 10,000 tCO2eq ต่อปี หากทำโครงการ Premium T-VER จะเสียค่าธรรมเนียมขึ้นทะเบียน 10,000 บาทต่อโครงการ หากทำโครงการตามมาตรฐาน VCS จะเสียค่าธรรมเนียม 1,000 USD หรือประมาณ 33,000-34,000 บาท (ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยน)

                     ในทางกลับกัน หากพิจารณาเรื่องความเป็นที่นิยม พบว่า VCS ได้รับความนิยมมากกว่า Premium T-VER ดูจากจำนวนโครงการที่ขึ้นทะเบียนทั่วโลกมีทั้งหมด 2,399 โครงการ ในขณะที่ Premium T-VER มี 4 โครงการ แต่อีกเหตุผลหนึ่งที่สำคัญคือ VCS เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 ซึ่งปีนี้เข้าสู่ปีที่ 19 แล้ว ส่วน Premium T-VER พึ่งเริ่มปี พ.ศ. 2565 นี่เอง

                     สำหรับผู้สนใจติดตามข้อมูล โครงการคาร์บอนเครดิตในประเทศไทย สามารถติดตามได้จากเว็บไซต์ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) URL: www.tgo.or.th และโปรดระมัดระวัง การหลอกลวงให้หลงเชื่อ ด้านการลงทุนโครงการคาร์บอนเครดิต ที่มิใช่โครงการ T-VER ที่ให้การรับรองโดย อบก.

SOURCE: https://tver.tgo.or.th/database/public/projects/2/1