1 ใน 3 ของอาหารผลิตจากทั่วโลก ประมาณ 1.3 ล้านตันต่อปี กลายเป็นขยะ...ถ้าคิดเป็นมูลค่า มหาศาลถึงกว่า 33 ล้านล้านบาท...เพียงพอสำหรับเป็นอาหารให้ประชากรได้ถึง 3,000 ล้านคน (ข้อมูลจากองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ: FAO)
ซ้ำร้ายขยะที่เกิดจากอาหาร สร้างผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศ...ปล่อยก๊าซหลายชนิดขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ ทำให้เกิดปรากฏการณ์เรือนกระจก
ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจัดว่า เป็นภูมิภาคมีผักผลไม้สดสูญเสียระหว่างการขนส่งจากฟาร์มสู่ตลาดถึง 50%...ผลที่ตามมา สิ้นเปลืองทรัพยากรดิน น้ำ พลังงาน ปัจจัยการผลิตที่ใช้เพาะปลูกไปโดยเปล่าประโยชน์
สำหรับประเทศไทย ข้อมูลกรมควบคุมมลพิษระบุ ปี 2559 พบขยะมูลฝอยรวม 27.06 ล้านตัน เท่ากับคนไทยสร้างขยะวันละ 74,130 ตัน เฉลี่ยคนไทย 1 คน สร้างขยะวันละ 1.14 กก.
ด้วยเหตุนี้จึงเกิดกลยุทธ์จากฟาร์มถึงโต๊ะอาหารของ เทสโก้ โลตัส เพื่อลดการสูญเสียตลอดห่วงโซ่อุปาทาน ก่อนกระจายสู่สินค้าเกษตรทุกชนิด...กระบวนการเริ่มต้นตั้งแต่รับซื้อผลผลิตตรงจากเกษตรกร สร้างโรงแพ็ก ตัดแต่งใกล้แหล่งเพาะปลูก เพื่อยืดระยะความสด ผักผลไม้แต่ละหน่วยถูกรองด้วยโฟมกันกระแทกไม่ให้เสียดสีกันจนเสียหาย ควบคุมอุณหภูมิตลอดการขนส่ง และใช้บรรจุภัณฑ์ที่รักษาความสดได้
เมื่อถึงมือผู้บริโภค หากสินค้าอยู่ในสภาพไม่สมบูรณ์ แตก หัก แต่ยังคงกินได้ จะนำมาลดราคาเป็นสินค้าป้ายเหลือง...หากสภาพดูแล้วไม่น่ามีคนซื้อ จะถูกนำไปแปรรูป ถ้าเป็นผลไม้ก็นำไปทำเบเกอรี่ ถ้าผักก็นำเข้าสู่ครัวขององค์กร
แต่หากสินค้าขายไม่หมด จะนำไปบริจาคให้ผู้ยากไร้ องค์กรการกุศล มูลนิธิต่างๆ...นับถึงตอนนี้ เทสโก้ โลตัส ดำเนินการในเรื่องนี้มา 1 ปี ช่วยลดการสูญเสียไปได้รวม 300 ตัน หรือลดขยะอาหารไปได้กว่า 90%
ที่มาของบทความและรูปภาพประกอบ: https://www.thairath.co.th