ศูนย์พยากรณ์อากาศสหรัฐเผยปรากฎการณ์ “ลา นิญ่า” มาแน่นอนถึง 70 % แล้วประเทศไทยจะได้รับฝนตกถึงตกหนักในครึ่งหลังของปี 2016 ต่อต้นปี 2017 เตรียมหาวิธีกักเก็บไม่ให้น้ำไหลทิ้ง
เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2016 ศูนย์พยากรณ์สภาพภูมิอากาศ สำนักบริหารแห่งชาติด้านมหาสมุทรและบรรยากาศ (The National Oceanic and Atmospheric Administration's Climate Prediction Center หรือ NOAA) ออกประกาศอย่างเป็นทางการว่าปรากฎการณ์เอล นิโญ่เริ่มสิ้นสุดลงและจะหายไปภายใน 2 เดือนข้างหน้า จากนั้นปรากฎการณ์ลา นิญ่า (La Niña) จะเดินทางเข้ามาแทนที่และโอกาสที่จะเกิดมีถึง 70 % แล้วในขณะนี้
นายไมค์ ฮาลเพิร์ต รองผอ.ศูนย์พยากรณ์อากาศเปิดเผยว่าปรากฎการณ์ของลา นิญ่า จะทำให้สภาพอากาศของสหรัฐเกิดความแห้งแล้งในบางส่วนของภาคใต้และบางส่วนของรัฐแคลิฟอร์เนียจะไม่ทำให้ภาวะแห้งแล้งของแคลิฟอร์เนียที่ติดต่อกันมา 4 ปีหายไป
“อากาศแห้งแล้งในปีหน้า (2017) จะไม่ทำให้อะไรดี ผมรับประกันคุณได้แบบนี้” นายฮาลเพิร์ตกล่าว
สำหรับฤดูร้อนปีนี้ที่จะเกิดพายุเฮอร์ริเคนในมหาสมุทรแอตแลนติกนั้นนายฮาลเพิร์ตเปิดเผยว่าเมื่อเริ่มต้นฤดูร้อนของปีนี้ (เดือนกรกฎาคมในสหรัฐ) โลกจะยังอยู่ในช่วงหางของเอล นิโญ่ จะช่วยลดพายุเฮอร์ริเคนในมหาสมุทรแอตแลนติก แต่หากปรากฎการณ์ลา นิญ่า เข้ามาก็จะช่วยจุดประกายทำให้เกิดพายุได้เพิ่มขึ้นเช่นกัน
ปรากฎการณ์ลา นิญ่า หมายถึงอากาศในฤดูหนาวทางตะวันตกเฉียงเหนือของมหาสมุทรแปซิฟิกและโอไฮโอ้ แวลเลย์ จะมีฝนเปียกชื้น,ทางภาคใต้ของสหรัฐจะแห้งแล้งโดยเฉพาะรัฐฟลอริด้า,นอกจากนี้จะมีพายุหิมะเล็กน้อยทางฝั่งตะวันออกของประเทศและอากาศหนาวเย็นทางที่ราบภาคเหนือ
ปรากฎการณ์เอล นิโญ่ จะทำให้ภูมิอากาศอบอุ่นและร้อนในบางส่วนของมหาสมุทรแปซิฟิกโดยหลายปีจะเกิดขึ้นครั้งละอยู่ประมาณ 1 ปีจึงหายไป ส่วนลา นิญ่าจะเกิดตามมาทำให้น้ำในมหาสมุทรแปซิฟิกเย็นการเกิดขึ้นจะอยู่นานมากกว่าปี
นายฮาลเพิร์ตเปิดเผยว่าเมื่อเกิดปรากฎการณ์ลา นิญ่า จะทำให้บราซิลและแอฟริกาใต้เปียกชื้นแทนที่จะแห้งแล้ง “ตอนนี้เครื่องวัด El Nino Southern Oscillation ระบุแล้วว่าอากาศของโลกผ่านความเป็นกลางไปแล้วจะทำให้โลกเย็นลง”
ลา นิญ่า เกิดผลกระทบต่อประเทศไทยอย่างไร
ข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยาของประเทศไทย อธิบายว่า ปี 2554 (2011) อยู่ในช่วงปรากฎการณ์ลา นิญ่า ส่งผลให้ประเทศไทยมีฝนตกมากกว่าปกติ ปรากฏการณ์ลา นิญ่าเกิดขึ้นช่วงกลางปี 2553 และต่อเนื่องจนถึงกลางปี 2554 โดยมีกำลังแรงช่วงปลายปี 2553 จนถึงต้นปี 2554
จากนั้นสภาพลา นิญ่าอ่อนตัวลงจนเข้าสู่สภาพเป็นกลาง ช่วงระหว่างเดือนมิ.ย.- ก.ย. และค่อยๆ เริ่มกลับสู่สภาวะลา นิญ่าอีกครั้งช่วงปลายปี ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกมากกว่าปกติ อีกทั้งยังทำให้ฝนมาเร็วกว่าปกติ โดยในปี 2554 ฝนเริ่มตกตั้งแต่เดือนมีนาคมและทำให้มีปริมาณน้ำฝนสะสมจำนวนมาก และมีฝนตกหนักในช่วงเดือนกันยายน-พ.ย.2554
ในช่วงต้นปี 2555 สถานการณ์ของปรากฏการณ์ลา นิญ่า ที่เกิดขึ้นยังมีอิทธิพลอยู่จนถึงกลางปีโดยอุณหภูมิผิวน้ำทะเลบริเวณตอนกลางมหาสมุทรแปซิฟิกเขตศูนย์สูตรจะอยู่ในภาวะปกติ
หากเป็นไปตามที่พยากรณ์ไว้จึงเชื่อว่าช่วงหลังของปี 2016 จะเกิดปรากฎการณ์ ลา นิญ่า ขึ้นและอาจสิ้นสุดระหว่าง 9-12 เดือนก็หมายความว่าประเทศไทยอาจมีฝนตกทำให้ลดภาวะแห้งแล้งลงไปได้จะเกิดผลดีต่อการเกษตรของประเทศไทย
นอกจากนี้ปรากฎการณ์ลา นิญ่า ยังทำให้เกิดภาวะน้ำท่วมอย่างหนักในรัฐควีนส์แลนด์ของออสเตรเลียและบางส่วนของประเทศฟิลิปปินส์ ดังนั้นประเทศไทยอาจได้รับผลกระทบเกิดภาวะน้ำท่วม จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเตรียมรับมือเพื่อกักเก็บน้ำแก้ปัญหาแล้งได้อย่างดี
ที่มาของบทความและรูปภาพประกอบ http://www.thaitribune.org