มีข่าวเผยแพร่ผ่านทางสื่อต่างๆ โดยเฉพาะสื่อออนไลน์เป็นระยะ อ้างชื่อนักวิชาการหลายคน เตือนว่าในปี พ.ศ.2563 กรุงเทพ-ปริมณฑลบางส่วนจะจมอยู่ใต้บาดาล จากระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้น แต่ล่าสุดทางสำนักวิทยาศาสตร์ ราชบัณฑิตยสภา ออกมาชี้แจงว่า มีความเป็นไปได้ยากมากที่กรุงเทพ-ปริมณฑลจะจมน้ำในปี 2563
วันนี้ (16 ก.พ.) ที่สำนักวิทยาศาสตร์ ราชบัณฑิตยสภา จัดเสวนาวิชาการ เรื่อง "ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น ประเทศไทยบางส่วนจะจมอยู่ใต้บาดาลตั้งแต่ปี 2563 จริงหรือ?" โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิหลายด้านเข้าร่วมเสวนา
ศ.ดร.ธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล อาจารย์ประจำภาควิชาธรณีวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ภาคีสมาชิกราชบัณฑิตยสภา ผู้ซึ่งศึกษาเรื่องนี้มานาน 20 ปี นำผลการศึกษามาเผยแพร่ บอกว่า การเปลี่ยนแปลงระดับน้ำทะเลและโอกาสที่ระดับน้ำทะเลจะเพิ่มขึ้น 1-2 เมตร ภายในเวลา 3-4 ปีนั้นเป็นไปไม่ได้ หากดูจากข้อมูลรายงานฉบับล่าสุดของคณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก (IPCC) พบว่า อัตราการละลายของน้ำแข็งขั้วโลก ส่งผลให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น เฉลี่ย 3.2 มิลลิเมตรต่อปี ดังนั้นความเป็นไปได้ที่กรุงเทพ-ปริมณฑล จะจมอยู่ใต้บาดาลในปี 2563 จึงเป็นไปได้ยากมาก
แต่สิ่งที่ประเทศไทยและทั่วโลกต้องเผชิญคือภาวะความเปลี่ยนแปลงของโลกที่ไม่เป็นปกติ และส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิต ซึ่งรวมถึงมนุษย์ด้วย
ทั้งนี้ ประเทศไทยมีความเสี่ยงต่อน้ำท่วมหลายปัจจัย อาทิ ภาวะโลกร้อน ทำให้น้ำแข็งขั้วโลกละลาย จนระดับน้ำทะเลสูงขึ้น ความแปรปรวนของสภาพอากาศที่มีฝนตกเพิ่มขึ้น น้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่งร้ายแรง ที่เกิดขึ้นแล้วคือที่บ้านขุนสมุทรจีน จ.สมุทรปราการ และปรากฏการณ์แผ่นดินทรุดในกรุงเทพ เฉลี่ยปีละ 1 ซ.ม.
ในวงเสวนาเสริมว่า วิกฤตการณ์ในไทยที่มีความเสี่ยงไม่แพ้กัน คือ ภาวะแห้งแล้งยาวนาน ทำให้เกิดภาวะขาดแคลนอาหารและน้ำ ซึ่งเป็นอีกประเด็นที่รัฐบาลต้องกำหนดนโยบายให้ประชาชนตระหนักรู้ถึงปัญหาดังกล่าว และระดมความคิดในการป้องกัน และปรับตัว ก่อนที่ปัญหาภัยพิบัติจะเกิดขึ้น
ที่มาของบทความ: http://www.now26.tv
ที่มาของรูปภาพประกอบ: http://www.prachatalk.com