ด้วยปัจจุบันองค์กรธุรกิจแทบทุกแห่งในโลกต่างสนับสนุนกิจกรรมการปลูกต้นไม้เพื่อลดปัญหาโลกร้อน นอกจากนี้ยังมีผลประโยชน์ร่วมอื่นๆที่ทำให้ประชาชนที่อยู่รอบแปลงปลูกป่ายังสามารถใช้ประโยชน์จากป่าได้อีกด้วย
โครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 1 ล้านไร่ ที่ ปตท. ดำเนินงานตั้งแต่ปี พ.ศ.2537 ภายใต้ร่วมกับศูนย์วิจัยป่าไม้ คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พบว่า ป่า 1 ล้านไร่นี้ สามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 18.17 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์ และคายออกซิเจนคืน 14.5 ล้านตันออกซิเจน คิดเป็นมูลค่าป่าในการกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ 6,052 บาท
แต่จะรอให้คนอยู่ใกล้ป่าปลูกต้นไม้ฝ่ายเดียวเห็นจะไม่ทันการ เพราะต้องเป็นงานที่ช่วยกันคนละไม้คนละมือ เป็น ‘วาระสำคัญ’ ของเราทุกชีวิต เมื่อต้นไม้ที่โตเต็มที่ 1 ต้น สามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 8 กิโลกรัมต่อปี ซึ่งจะช่วยเพิ่มความชื้นในอากาศ ดูดความร้อนแฝงระหว่างการคายน้ำ พร้อมกับคายออกซิเจนออกมา ส่วนผิวใบ กิ่ง ก้าน ก็เป็นตัวจับฝุ่นละออง ทำให้มลพิษในอากาศบางลง ส่วนพุ่มไม้สีเขียวที่มีความหนาแน่น ก็สามารถกรองอากาศได้ ทำให้ปริมาณฝุ่นลดลงได้มาก คนในสมัยก่อนยังนิยมปลูกไม้พุ่มเป็นรั้วบ้าน ทั้งยังเป็นเครื่องหมายบอกแนวเขตบ้านอีกด้วย
สำหรับพื้นที่ที่อยู่ใกล้ทะเล การปลูกไม้ยืนต้นคือการสร้างปราการป้องกันพายุที่มีต้นทุนถูก แต่ได้ผลเลิศ เช่น การเกิดเหตุการณ์คลื่นสึนามิพัดเข้าสู่ชายฝั่งภาคใต้ ในปี พ.ศ.2547 ชุมชนหลายแห่งได้รับผลกระน้อยลงจากความรุนแรงของคลื่นจากการปลูกป่าชายเลน เนื่องจากความทึบหนาของป่าเป็นกำแพงชั้นดีในการลดการเหตุดังกล่าว
ที่มาของบทความและรูปภาพประกอบ : http://www.pttreforestation.com