สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศสหรัฐอาณาจักร เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ว่า สหราชอาณาจักร หรือ ยูเค ต้องการเดินหน้าแผนสิ่งแวดล้อม และเป็นตัวอย่างให้ประเทศอื่นๆ ทำตาม ก่อนการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก (United Nations Climate Change Conference) หรือที่เรียกกันว่า ค็อป26 (COP26) ที่เมืองกลาสโกว์ ในสกอตแลนด์ ในเดือน พ.ย.ปลายปีนี้

               นายจอร์จ  ยูสติซ รัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อมยูเค กำหนดจะประกาศแผนการในวันอังคาร (18 พ.ค.) ว่า อัตราการปลูกป่าในประเทศ จะเพิ่มขึ้น 3 เท่า ภายในเดือน พ.ค. 2567 โดยจะปลูกไม้ยืนต้น ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 7,000 เฮกตาร์ (42,700 ไร่) ต่อปี โครงการปลูกป่านี้จะช่วยสร้างงาน ในภาคการป่าไม้ด้วย

               อย่างไรก็ตาม เนื้อหาในแถลงการณ์ที่เผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ (16 พ.ค.) ไม่ระบุรายละเอียดของแผนการ รวมทั้งจำนวนต้นไม้ที่จะปลูก สถานที่ปลูก ค่าใช้จ่าย และเงินทุน และยังไม่ระบุด้วยว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลปลูกต้นไม้ตามแผนสู้โลกร้อนไปแล้วกี่ต้น

               นายอล็อค ชาร์มา ผู้นำการรณรงค์สู้ปัญหาโลกร้อน และประธานการประชุมค็อป26 กล่าวเตือนว่า บรรดาผู้นำโลกต้องตกลงกัน ในระหว่างการประชุมสุดยอดเดือน พ.ย. ในประเด็นการยกเลิกการใช้ถ่านหิน เพื่อป้องกันความหายนะ ต่อสภาพภูมิอากาศโลก

               ก่อนถึงการประชุมค็อป26 รัฐบาลยูเคประกาศจะเน้น 4 เป้าหมายหลัก ประกอบด้วย 1. บรรลุเป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ 2. ปกป้องชุมชนและถิ่นอยู่อาศัยตามธรรมชาติ จากผลกระทบของภาวะโลกร้อนขึ้น 3. ระดมเงินทุน 4. ระดมความร่วมมือจากนานาชาติ เพื่อเร่งปฏิบัติการไปสู่เป้าหมาย

ที่มา : เดลินิวส์