นายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ระบุเดินหน้าโรงไฟฟ้าชุมชน คาดประกาศรับซื้อไฟฟ้าได้ใน 30 วัน ปรับหลักเกณฑ์ให้ผลประโยชน์ตกสู่เกษตรกรอย่างแท้จริง เบื้องต้นนำร่องประเดิมรับซื้อ 200 เมกะวัตต์
นายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงนโยบายด้านพลังงานหลังจากชี้แจงนโยบายภายหลังการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “พลังงานร่วมใจ รวมไทยสร้างชาติ” ร่วมกับข้าราชการกระทรวงพลังาน ภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกว่า 80 คน ว่า โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก จะเดินหน้าสานต่อนโยบายจากนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ซึ่งได้มอบหมายให้นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังาน ไปศึกษาวัตถุประสงค์ของโครงการนี้ใหม่ พร้อมปรับหลักเกณฑ์ เพื่อให้ประโยชน์ตกถึงชมชุนและเกษตกรอย่างแท้จริง ไม่ใช่ตกแก่โรงไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ให้แล้วเสร็จและสามารถประกาศรับซื้อไฟฟ้าได้ภายใน 30 วัน นับจากนี้ไป และให้ผู้ที่สนใจยื่อข้อเสนอขายไฟฟ้าเข้ามาภายในปี 2563 นี้ และเริ่มจ่ายไฟฟาตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่สรุปว่าจะเปิดรับซื้อไฟฟ้า โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนประเภทใดก่อน ซึ่งของเดิมกำหนดไว้ 4 ประเภท แต่ได้ให้การบ้านกับผู้บริหารกระทรวงไปว่า จะต้องเป็นโรงไฟฟ้าที่มุ่งสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรอย่างแท้จริง อย่างเช่น การปลูกไม้โตเร็ว เพื่อนำมาเป็นวัตถุดิบโรงไฟฟ้าชีวมวล และการปลูกหน้าเนเปียร์ เป็นวัตถุดิบโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ เป็นต้น เบื้องต้นคาดว่าอาจจะเปิดรับซื้อไฟฟ้าปริมาณ 100-200 เมกะวัตต์ นำร่องก่อน โดยไม่ระบุว่าเป็นโรงไฟฟ้าชุมชนประเภท Quick win 100 เมกะวัตต์ แต่จะเปิดกว้างให้กับเอกชนและวิสาหกิจที่สนใจด้วย ซึ่งต้องรอผลการศึกษาของกระทรวงพลังงานก่อนว่าปริมาณดังกล่าวเหมาะสมและตรงกับวัตถุประสงค์ช่วยสร้างงานสร้างรายได้ให้เกษตรกรหรือไม่
ที่มา ฐานเศรษฐกิจ