การประชุมที่กรุงพอร์ท มอร์สบี้ มีประเทศเข้าร่วมหารือถึง 15 ชาติ ซึ่งประเทศเหล่านี้พากันวิตกเกี่ยวกับสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง
เมื่อไม่นานมานี้ มีการประชุมที่กรุงพอร์ท มอร์สบี้ ประเทศปาปัวนิวกินี ในแถบมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ ซึ่งการประชุมดังกล่าวเป็นการส่งสัญญาณไปถึงชาวโลกว่า ถึงเวลาแล้วที่ต้องมีมาตรการอย่างเป็นรูปธรรมเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหา สภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงในการประชุมที่กรุงปารีสของฝรั่งเศสในปลายปีนี้ เนื่อง จากบางประเทศในกลุ่มแปซิฟิก ไอส์แลนด์ ฟอรัม (พีไอเอฟ) อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลถึง 1 เมตร ทำให้ประเทศเหล่านี้กลัวว่า จะถูกจมอยู่ใต้กระแสน้ำโดยปราศจากความช่วยเหลือจากกลุ่มประเทศผู้ปล่อยมลพิษรายใหญ่
การประชุมที่กรุงพอร์ท มอร์สบี้ มีประเทศเข้าร่วมหารือถึง 15 ชาติ ซึ่งประเทศเหล่านี้พากันวิตกเกี่ยวกับสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ถึงแม้บางชาติมีส่วนในการปล่อยก๊าซคาร์บอนในปริมาณที่น้อยก็ตาม และนับเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว ที่การประชุมกลุ่มแปซิฟิก ไอส์แลนด์ ฟอรัม มีแต่รายละเอียดของการกัดเซาะชายฝั่ง การทำลายอย่างรุนแรงมากขึ้นของพายุ และพืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหายจากการบุกรุกเข้ามาในดินแดนของน้ำทะเล
ความเสียหายอย่างรุนแรงได้ปรากฏขึ้นในหลายหมู่บ้านของหมู่เกาะมาร์แชลล์ ขณะที่ เกาะเล็ก ๆ อย่างคิริบาติได้ซื้อผืนดินขนาดใหญ่ในฟิจิ ในกรณีที่ประชาชนจำเป็นต้องโยกย้ายถิ่นฐาน ทอมมี เรเมงเกสอู ประธานาธิบดีปาเลา บอกว่า การให้คำมั่นสัญญาของประเทศแถบมหาสมุทรแปซิฟิก จะช่วยกระตุ้นจิตสำนึกของคณะผู้แทนจาก 195 ชาติที่จะมาร่วมประชุมในกรุงปารีสของฝรั่งเศสในเดือนธันวาคม ให้ช่วยกันหาทางบรรลุข้อตกลง
ประธานาธิบดีปาเลากล่าวต่อไปว่า มีอันตรายอย่างทันทีต่อประเทศหมู่เกาะขนาดเล็กทั้งหมด และเมื่อสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงกำลังสร้างความเสียหายอย่างหนักในตอนนี้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องของอนาคตอีกต่อไปแล้ว ดังนั้นการประชุมที่มีชื่อว่า COP 21 ในกรุงปารีส จะต้องแสวงหาข้อตกลงที่มีผลผูกพัน และให้มีผลบังคับใช้ในปี 2563
เจฟฟรีย์ พัลเมอร์ อดีตนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ บอกว่า การเจรจาที่กรุงปารีสจะเป็นตัวกำหนดอนาคตของประเทศหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก เช่น คิริบาติ, ตูวาลู และโตเคอาลู ซึ่งหากหมู่เกาะเหล่านี้เผชิญน้ำทะเลหนุนสูงถึง 1 เมตร ในไม่ช้าจะต้องถูกน้ำท่วม ส่วนออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ที่เป็นสองสมาชิกของพีไอเอฟ ถูกกล่าวหาว่า ไม่ยอมแก้ไขปัญหาโลกร้อนอย่างจริงจัง
ประธานาธิบดีคิริบาติ ประกาศว่า ประเทศหมู่เกาะเล็ก ๆ จะไม่ยอมให้ประเทศถูกน้ำท่วม และเรามีปัญหาใหญ่มาก หากไม่ออกมาเรียกร้อง ซึ่งเราต้องการมาตรการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะเมื่อใดที่น้ำทะเลหนุนสูง จะมีน้ำไหลเข้ามาท่วมบ้าน
อย่างไรก็ตาม เมื่อโลกร้อนขึ้นทำให้น้ำแข็งในโลกละลาย การละลายของน้ำแข็งทั่วโลกนี้เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงภาวะโลกร้อนได้อย่างชัดเจน และการละลายของน้ำแข็ง ทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น ยกตัวอย่างเช่น น้ำมหาสมุทรจะเพิ่มระดับขึ้นหลายเมตรทั่วโลก ซึ่งส่งผลกระทบเสียหายร้ายแรง น้ำทะเลที่เพิ่มขึ้นเพียง 1 เมตรจะทำให้ประชาชนจำนวนมากไร้ที่อยู่อาศัย น้ำแข็งทั้งหมดที่กำลังละลายอยู่นี้อาจทำให้ความเข้มข้นของน้ำทะเลของโลกเจือจางลง โดยเปลี่ยนระดับความเค็มมากพอที่จะทำให้ประชากรปลาลดลง และส่งกระทบต่อระบบการไหลเวียนของมหาสมุทรทั่วโลก.
ที่มาของบทความ: http://www.dailynews.co.th
ที่มาของรูปภาพประกอบ: http://hilight.kapook.com