"ชาคริต ดิเรกวัฒนชัย" รองประธานกรรมการ แผนกสื่อสารองค์กรและความยั่งยืน เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า จากอดีตถึงปัจจุบัน เทสโก้ โลตัส ดำเนินโครงการซีเอสอาร์ภายใต้ 5 เสาหลักมาอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ ด้านสุขภาพ, ด้านพัฒนาชุมชน, ด้านเยาวชน, ด้านคู่ค้า และด้านสิ่งแวดล้อม

"สำหรับประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม เราพยายามค้นหาและใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อทำให้องค์กรของเราประหยัดพลังงาน เราเชื่อว่าการปรับเปลี่ยนเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมควรเริ่มที่ตัวเราเองก่อน เพราะเป็นรูปแบบการสร้างประโยชน์จากภายในสู่ภายนอกที่ยั่งยืน"

"ด้วยความพยายามดังกล่าว เราจึงเป็นบริษัทแรกในอุตสาหกรรมค้าปลีกที่เปิดตัวกรีนสโตร์ โดยมีแห่งแรกที่สาขาพระราม 1 กรุงเทพฯ ในปี 2547 เป็นสโตร์ที่นำพลังงานทดแทนมาใช้ เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ ที่ได้จากแผงโซลาร์เซลล์ที่ติดตั้งบนหลังคา จากนั้นในปี 2551 จึงเดินหน้าเปิดกรีนสโตร์แห่งที่ 2 ที่สาขาศาลายา จ.นครปฐม โดยนำพลังงานลมมาใช้ รวมถึงการรีไซเคิลในรูปของไบโอแก๊ส และไบโอดีเซลมาใช้อย่างคุ้มค่า"

"ต่อมาในปี 2554 เราเปิดตัวนวัตกรรมสโตร์ปลอดคาร์บอนไดออกไซด์ ที่สาขาบางพระ จ.ชลบุรี ที่นี่ถือเป็นแห่งแรกของประเทศไทย และภูมิภาคเอเชีย โดยใช้เทคโนโลยีล่าสุดในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากการใช้ไฟฟ้า และชดเชยปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เหลือด้วยพลังงานทดแทนที่ได้จากแหล่งผลิตภายในสาขา จนมีค่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่ากับศูนย์ และความภูมิใจล่าสุดคือ เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส สาขาถนนนวมินทร์ กรุงเทพฯ ที่ได้การรับรองจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. ว่าเป็นสโตร์คาร์บอนนูทรัล (Carbon Neutral Store) ที่ได้เครื่องหมายรับรองการชดเชยคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์"

"ชาคริต" อธิบายต่อว่า สาเหตุสำคัญของก๊าซเรือนกระจกที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนหลัก ๆ ได้แก่ คาร์บอนไดออกไซด์ ที่เกิดจากกิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์อย่างต่อเนื่อง เราจึงต้องการพัฒนาสโตร์ของเราให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการลดการปล่อยคาร์บอน และเซ็นสัญญากับ อบก. ในเดือน ก.ย. 2557 เพื่อซื้อคาร์บอนเครดิตมาชดเชยกับปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากกิจกรรมต่าง ๆ ของเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส สาขาถนนนวมินทร์ เพื่อทำให้ค่าการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เท่ากับศูนย์

"เราใช้เวลากว่า 2 ปี ปรับเปลี่ยนระบบประหยัดพลังงานดังกล่าวที่เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส สาขาถนนนวมินทร์ ทั้งยังทุ่มงบประมาณกว่า 8 แสนบาท ส่งผลให้จากเดิมที่เคยปล่อยคาร์บอน 162 ตันต่อปี สามารถลดปริมาณลงได้เหลือ 63 ตันต่อปี ทำให้เราซื้อคาร์บอนเครดิตเพื่อให้ค่าการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์เพียง 19,800 บาทต่อปีเท่านั้น"

"ขณะเดียวกันยังเพิ่มประสิทธิผลของการลดคาร์บอนด้วยการทำให้สโตร์สาขาถนนนวมินทร์เป็นสโตร์ปลอดถุงพลาสติก ทำให้ลูกค้าจับจ่ายด้วยถุงผ้าแทนการใช้ถุงพลาสติก ทำให้ช่วยลดการใช้ถุงพลาสติกกว่า 260,000 ใบต่อปี ทั้งยังมีการเตรียมพื้นที่จอดรถจักรยานเพื่อให้ลูกค้าเลือกเดินทางมาสาขา โดยไม่ใช้พาหนะที่ปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์อีกด้วย"

ถึงตรงนี้ "ชาคริต" กล่าวถึงแผนในอนาคตว่า เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส สาขาถนนนวมินทร์นี้ เป็นสโตร์ต้นแบบเพื่อนำร่องไปสู่การทำสโตร์คาร์บอนนูทรัลของเทสโก้ โลตัส กว่า 1,500 สาขาทั่วประเทศ ตอนนี้เราทำไปแล้วกว่า 30-40% และเชื่อว่าภายใน 2 ปี ทุกสโตร์ที่เป็นรูปแบบร้านเอ็กซ์เพรสจะมีการดำเนินรูปแบบคล้ายกันครบทุกสาขา

"เหตุผลที่เราลงทุนเพราะต้องการเปลี่ยนระบบต่าง ๆ เพื่อสิ่งแวดล้อม เรายึดถือว่าองค์กรใดองค์กรหนึ่งไม่สามารถที่อยู่ได้โดยการขายของ หรือการมีธุรกิจที่สร้างผลกำไรได้ดีเพียงอย่างเดียว แต่จะต้องแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย จึงจะทำให้ธุรกิจสามารถอยู่ได้อย่างยั่งยืน ทั้งยังเป็นที่ไว้วางใจต่อคู่ค้า และคนในสังคม"

นับว่าเป็นความตั้งใจดีของเทสโก้ โลตัส ที่ต้องการร่วมสร้างสังคมที่น่าอยู่เพื่อทุกคนอย่างแท้จริง

ที่มาของข่าวและรูปภาพประกอบ:: http://www.prachachat.net