เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. นายรอยล จิตรดอน ผอ.สถาบันสารสนเทศน้ำและการเกษตร (องค์การมหาชน) (สสนก.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริเวณกลางทะเลในขั้วโลกใต้เกิดคลื่นสูงขนาด 10-12 เมตร โดยคลื่นลูกดังกล่าวเกิดจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ หรือไคลเมทเชนจ์ ตรวจสอบพบว่าคลื่นลูกนี้กำลังเคลื่อนที่ไปใน 2 ทิศทาง คือเคลื่อนที่อ้อมทางด้านใต้ของทวีปออสเตรเลีย แล้ววกเข้าทางมหาสมุทรแปซิฟิก อีกทิศทางหนึ่งคือเคลื่อนที่มาทางมหาสมุทรอินเดีย เข้ามาทางภาคตะวันตกของประเทศไทย โดยจะหอบเอาความชื้นและฝนจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และลมมรสุมตะวันออกเฉียงใต้เข้ามาพร้อมกัน โดยลมมรสุมดังกล่าวจะเข้าสู่ประเทศไทยทางภาคตะวันตก ซึ่งจะส่งผลให้ จ.ระนอง กาญจนบุรี และตาก เกิดฝนตกหนัก ถึงหนักมากติดต่อกัน อีก 2-3 วัน
คลื่นลมดังกล่าวจะเข้ามาถึงประเทศไทยถือเป็นเรื่องดี ที่จะทำให้ฝนตกช่วยเพิ่มปริมาณน้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ได้ ทั้งนี้ การเกิดคลื่นใหญ่ในขั้วโลกมักจะเกิดขึ้นทุกปี โดยปีที่ผ่านมาเกิดขึ้นช่วงกลางเดือน พ.ค. แต่ปีนี้ถือว่าล่าช้าไปมาก น่าจะเป็นเพราะเป็นปีที่เกิดเอลนีโญอากาศค่อนข้างร้อนจัด
ผอ.สสนก. กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามความสูงของคลื่น 10-12 เมตร นั้นจะสูงบริเวณจุดกำเนิด คือกลางทะเลในบริเวณขั้วโลกใต้ ยิ่งคลื่นมีความสูงมากเท่าใด ที่มีกำลังแรงและจะหอบนำเอาความชื้นมาได้เยอะ ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักจากอิทธิพลของลมมรสุมในทิศทางที่คลื่นนั้นเคลื่อนที่ไป ซึ่งขนาดความสูงดังกล่าวนี้มีแรงส่งและพลังค่อนข้างมาก ซึ่งเมื่อเคลื่อนที่เข้าใกล้ฝั่ง ความสูงของคลื่นก็จะลดลงตามลำดับ อาจจะอยู่แต่ 2 เมตร เท่านั้น แต่อิทธิพลที่เหนี่ยวนำเอาลมมรสุมเข้ามานั้น ไม่ได้ลดลงเหมือนความสูงของคลื่น
นายรอยลยังกล่าวถึงปัญหาภัยแล้งและการขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตรในหลายพื้นที่เวลานี้ ว่า การขาดแคลนน้ำจะเกิดขึ้นเฉพาะพื้นที่ที่ต้องพึ่งพาน้ำจากระบบชลประทานเท่านั้น โดยระบบชลประทานนั้นจะต้องพึ่งพาน้ำจากเขื่อนขนาดใหญ่ เมื่อเขื่อนขนาดใหญ่ไม่สามารถส่งน้ำให้ได้ก็มีปัญหา ก่อนหน้านี้เคยเสนอแล้วว่า นับแต่นี้โลกจะเกิดภาวะการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศ ฤดูกาล รวมทั้งการเกิดฝนตกนั้นไม่มีความแน่นอน
ดังนั้น ทุกพื้นที่การเกษตรจะต้องทำแหล่งน้ำสำรองเอาไว้ใช้ จะพึ่งพาระบบชลประทานอย่างเดียวไม่ได้ ซึ่งในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หลายหมู่บ้านตอบรับกับข้อเสนอดังกล่าว มีการระดมกำลังจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะทหารช่างเข้าไปขุดบ่อน้ำทำแหล่งน้ำสำรองไว้ใช้ ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องน้ำสำหรับทำการเกษตรเลย ต่อไปเราจะต้องเตรียมการเรื่องแหล่งน้ำสำรองเอาไว้สำหรับทุกพื้นที่ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขาดน้ำและแย่งน้ำกันใช้อีก
ที่มาของข่าวและรูปภาพประกอบ:: http://www.khaosod.co.th