แผนภูมิใหม่ที่แสดงข้อมูลเกี่ยวกับสภาพอากาศนี้ถูกสร้างสรรค์โดย Ed Hawkins ที่ช่วยให้หัวข้อภาวะโลกร้อนเดิมๆอันแสนน่าเบื่อนั้นน่าสนใจขึ้นมาทันที ถ้าคุณผู้อ่านใส่ใจมองแผนภูมินี้ให้ดี

แผนภูมินี้ได้แสดงอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกตั้งแต่ปี ค.ศ.1850 เป็นต้นมา จนมาถึงปัจจุบัน จากภาพจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกนั้นเพิ่มขึ้นจากสีฟ้า (-2.5 องศาเซลเซียส) ไปสู่สีแดงเข้มขึ้นในทุกๆ ปี (+2.5 องศาเซลเซียส)

นอกจากนั้น Ed ยังได้สร้างแผนภูมิแบบ GIF อีกรูปแบบหนึ่งที่ช่วยให้เห็นภาพการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของโลกเช่นเดียวกัน นอกจากนั้นเขายังทำนายอนาคตของอุณหภูมิโลกอีกด้วย โดยกำหนดจุดสูงสุดไว้ที่ อุณหภูมิเฉลี่ย 6 องศาเซลเซียส (สามารถรับชมได้ที่ http://grist.org/climate-energy/watch-global-warming-spiral-out-of-control/)

สนธิสัญญาปารีสเมื่อปีที่แล้วกำหนดไว้ว่า ให้บรรดาประเทศมหาอำนาจช่วยกันควบคุมอุณหภูมิเฉลี่ยโลกไม่ให้เกิน 2 องศาเซลเซียส แต่คุณผู้อ่านทราบหรือไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากอุณหภูมิของโลกยังคเพิ่มสูงขึ้นตามที่ Ed Hawkins ทำนายเอาไว้

เมื่อโลกเราร้อนขึ้น 3 องศาเซลเซียส ป่าอะเมซอนอาจจะแห้งและเกิดไฟป่าขึ้นซ้ำๆ พื้นที่ในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและหลายพื้นที่ในฝั่งทวีปยุโรปจะแห้งแล้ง เนื่องจากความร้อนระอุในฤดูร้อน

เมื่อโลกร้อนเราร้อนขึ้น 4 องศาเซลเซียส มหาสมุทรจะมีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นจนกระทั่งเกิดน้ำท่วมอย่างรุนแรงในพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำที่มีประชาชนอาศัยอย่างหนาแน่น ส่งผลให้ประเทศต่างๆ เช่น บังกลาเทศและอียิปต์จะจมอยู่ใต้น้ำ แม่น้ำคงคาจะท่วมอย่างรุนแรงจากธารน้ำแข็งบนเทือกเขาหิมาลัยละลาย

เมื่อโลกเราร้อนขึ้น 5 องศาเซลเซียส จะมีผู้อพยพลี้ภัยจำนวนหลาย 10 ล้านคน และพื้นที่บริเวณตอนเหนือ กับทางใต้ของโลกที่มนุษย์ไม่สามารถอยู่อาศัยได้ จะกลายเป็นเขตอบอุ่นแทน

สามารถรับชมวิดีโอทำนายผลกระทบจากอุณหภูมิโลกที่เพิ่มขึ้นได้ที่นี่

ที่มาของบทความและรูปภาพประกอบ http://www.posttoday.com