จากกรณีสหประชาชาติจัดการประชุมสุดยอดว่าด้วยสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง วันที่ 23 ก.ย. นั้น ทางองค์กรรณรงค์สิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ “วี มีน บิสเนส” ในยุโรปเปิดเผยว่า ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา มีบริษัทเอกชน 87 แห่ง ทั้งภาคอุตสาหกรรมอาหาร ก่อสร้าง และเทเลคอม ในยุโรป อเมริกาเหนือ และเอเชีย ให้การรับรองเรื่องการควบคุมก๊าซเรือนกระจก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่ออุณหภูมิเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นของโลก
โดยทั้งนี้ บริษัทยักษ์ใหญ่ อาทิ เนสท์เล่ของสวิตเซอร์แลนด์ บริษัทก่อสร้างแซงต์-โกแบงของฝรั่งเศส และบริษัทผู้ผลิตเครื่องสำอางชั้นนำลอรีอัลของฝรั่งเศส ประกาศจะควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้กลายเป็นศูนย์ภายในปี 2593 ขณะที่บริษัทชั้นนำบางส่วน ซึ่งรวมบริษัทเทเลคอมโนเกียของฟินแลนด์ กลุ่มบริษัทด้านอาหารดานอนของฝรั่งเศส และบริษัทผลิตยาแอสตราเซเนกาของอังกฤษ ประกาศเพียงว่าจะทำธุรกิจให้สอดคล้องกับเป้าหมายควบคุมอุณหภูมิโลก ไม่ให้เพิ่มเกิน 1.5 องศาเซลเซียส ตามข้อตกลงโลกร้อนกรุงปารีสปี 2558
ทั้งนี้ คณะนักวิทยาศาสตร์นานาชาติประกาศเตือนอย่างต่อเนื่องว่า โลกจำเป็นต้องลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกมากกว่าครึ่งในช่วงทศวรรษหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะโลกร้อนขั้นหายนะ
ที่มาของข่าว: www.thairath.co.th