มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รับมอบรถยนต์ไฟฟ้า 4 คันแรก จาก 4 บริษัทชั้นนำด้านยานยนต์ ดีเดย์เริ่มใช้รถยนต์ไฟฟ้า 14 สิงหาคม ที่ผ่านมา นำร่องใช้เส้นทางไป-กลับมหาวิทยาลัย ศูนย์ท่าพระจันทร์ไปศูนย์รังสิต
เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2562 ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ท่าพระจันทร์ ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีฝ่ายความยั่งยืนและบริหารศูนย์รังสิต รับมอบรถยนต์ไฟฟ้าจำนวน 4 คัน จาก 4 บริษัทชั้นนำ ที่มีการลงนาม MOU กันไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งการรับมอบครั้งนี้ ได้มีการเชิญสื่อมวลชนร่วม Test Drive โดยเดินทางด้วยรถไฟฟ้า จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ท่าพระจันทร์ไปยังศูนย์รังสิต ระยะทาง 47 กิโลเมตร
โดยทาง ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล เปิดเผยกับทีมข่าวเวิร์คพอยท์ว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีเป้าหมายการพัฒนาสู่ Thammasat Smart City ด้วยการนำระบบเทคโนโลยีมาสร้างคุณภาพชีวิต และสภาพแวดล้อมที่ดีภายในมหาวิทยาลัย จึงร่วมมือกับภาคเอกชนเริ่มนำรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ EV Car (Electric Vehicle) มาใช้งาน พร้อมระบบเช่าระยะสั้นหรือ Car Sharing ผ่านแอปพลิเคชั่นและสถานีชาร์จไฟฟ้าทั้งที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต และท่าพระจันทร์ ซึ่งจะช่วยลดปริมาณการใช้รถยนต์ส่วนตัว ลดการใช้พลังงานและลดมลพิษภายในมหาวิทยาลัยได้ตั้งเป้าช่วยลดมลพิษ
ส่วนแผนการใช้งาน ใน 1 เดือนแรกจะให้คณาจารย์ นักศึกษากลุ่มหนึ่งนำร่องใช้เดินทางระหว่างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต และท่าพระจันทร์ หลังจากนั้น ครบ 3 เดือนจะมีการประเมินเพื่อจะเปิดให้นักศึกษาและบุคคลทั่วไปสามารถเช่ารถไฟฟ้า โดยจะมีการคำนวนราคาเช่าที่เหมาะสมอีกครั้ง นอกจากนี้ ทางมหาวิทยาลัยจะรวบรวมข้อมูลการขับขี่ สภาพจราจร คุณภาพการใช้บริการ เพื่อนำไปวิเคราะห์ประเมินผลและทำวิจัยเพื่อให้โครงการนี้มีประสิทธิภาพมากขึ้นต่อไป
“ข้อดีมากของรถไฟฟ้า ก็คือ ไม่สร้างมลภาวะ ไม่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ไม่มีน้ำมันเครื่องต้องคอยถ่าย เพียงแค่ชาร์ตไฟฟ้า แม้จะวิ่งได้แค่ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ถ้าวิ่งในกรุงเทพฯ ระหว่างมหาวิทยาลัยจากรังสิตไปท่าพระจันทร์จะไม่มีปัญหา ทั้งนี้ภาวะโลกร้อนรุนแรงขึ้น เกิดภัยธรรมชาติ น้ำท่วมใหญ่บ่อยขึ้น แล้งหนักขึ้น ไฟป่ามากขึ้น น้ำแข็งละลายมากขึ้น เรื่องโลกร้อนมันไม่ไกลตัวเรา มันเกิดขึ้นแล้ว โลกร้อนเกิดจากเราปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากเกินไป มาจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมัน หรือเครื่องจักรที่ใช้ถ่านหิน ใช้ก๊าซ จึงต้องตั้งหลักกันไว้ว่า โลกร้อนมันเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องแก้ไข การเปลี่ยนจากรถยนต์น้ำมันเป็นรถยนต์ไฟฟ้าจึงเป็นทางออก เป็นการรับมือและแก้ปัญหาไม่ให้โลกร้อนไปกว่านี้”
ที่มาของข่าว: www.workpointnews.com